นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรรายใหม่ 1-2 รายในธุรกิจด้านไอที ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้
ส่วนความคืบหน้าในการเป็นพันธมิตรร่วมกับ บริษัท Sojitz Corporation จำกัดจากประเทศญี่ปุ่นนั้น คาดว่าจะสามารถดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายตลาดไปจับกลุ่มลูกค้าต่างชาติเช่นกลุ่มบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นที่มาตั้งโรงงานในเมืองไทย โดยปัจจุบันมีจำนวนโรงงานทั้งหมดกว่า 2,000-3,000 โรงงาน ซึ่งถือเป็นฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต
นายศิริพงษ์ ยังกล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/51 ว่า น่าจะเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/51 ที่มีรายได้ 1,359 ล้านบาท กำไรสุทธิ 104 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีแผนเข้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงรอผลประมูลอีกหลายโครงการ
ขณะที่ยังคงเป้าหมายรายได้ทั้งปี 51 ไว้ที่ 3,000 ล้านบาทจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 80% ที่เป็นภาครัฐ ซึ่งมีการเบิกจ่ายและดำเนินโครงการตามงบประมาณประจำปีอย่างต่อเนื่อง และยังเชื่อมั่นว่าในปีงบประมาณปี 52 ภาครัฐจะไม่มีการปรับลดงบด้านไอทีลงอย่างแน่นอน เนื่องจากจะช่วยการบริหารจัดการงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ถ้าพิจารณาถึงปัจจัยลบที่กระทบกับธุรกิจ ก็ต้องบอกว่ามีทั้งเรื่องน้ำมันแพงต้นทุนผลิตเพิ่ม เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น แต่ปัจจัยเหล่านั้นไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญกับผลประกอบการของบริษัทฯ เนื่องจากที่ผ่านมาเราได้ปรับราคาขายตามต้นทุนที่สูงขึ้นเช่นกัน" นายศิริพงษ์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--