ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 34.03 จุด หลังราคาน้ำมันร่วงเกือบ $5

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 20, 2008 06:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลงเกือบ 5 ดอลลาร์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 34.03 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 12,063.09 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 5.02 จุด หรือ 0.38% แตะที่ 1,342.83 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 32.36 จุด หรือ 1.33 % ปิดที่ 2,462.07 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.29 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.28 พันล้านหุ้น
เจนนิเฟอร์ เอลลิสัน นักวิเคราะห์จากบริษัทบิงแฮม ออสบอร์น แอนด์ สคาร์โบโรห์ ในเมืองซานฟรานซิสโก กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลและเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นเมื่อราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ดิ่งลง 4.75 ดอลลาร์ แตะระดับ 131.93 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากมีข่าวว่าจีนวางแผนที่จะเพิ่มมาตรการการควบคุมราคาน้ำมันเบนซินและเชื้อเพลิงดีเซล ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจทำให้ปริมาณความต้องการน้ำมันโดยรวมทั่วโลกปรับตัวลดลง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงาน ลดลง 5,000 ราย แตะระดับ 381,000 รายในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 14 มิ.ย. จากรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 386,000 ราย
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มภาคการเงินของสหรัฐ หลังจากแกรี คริทเทรเดน ผู้บริหารซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยว่า ซิตี้กรุ๊ปอาจต้องปรับลดมูลค่าทางบัญชีเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการตั้งสำรองหนี้สูญ ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง และเป็นปัจจัยถ่วงหุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงด้วย
ทั้งนี้ หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 1.1% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา รูดลง 0.8% อย่างไรก็ตาม หุ้นเอไอจีในกลุ่มประกันพุ่งขึ้น 4.9% หลังซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
นักลงทุนจับตาดูข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐวางแผนที่จะเปิดทางให้วาณิชธนกิจสามารถกู้เงินจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ต่อไป หากโครงการปล่อยวงเงินกู้ฉุกเฉินของเฟดสิ้นสุดลงในเดือนก.ย. ซึ่งแผนการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากวาณิชธนกิจหลายแห่งขาดทุนและมีผลกำไรลดลง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ