นักวิเคราะห์คาดราคาน้ำมันผันผวน,ประชุมเฟด กดดันตลาดหุ้นเอเชียสัปดาห์หน้าซบเซา

          นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียอาจตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในสัปดาห์หน้า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวน และกระแสคาดการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมในสัปดาห์หน้า
          คาสเตอร์ แปง นักวิเคราะห์จากบริษัทซันฮุงไก ไฟแนนเชียลในฮ่องกง กล่าวว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 24-25 มิ.ย.นี้ แต่คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้อย่างแน่นอนหากตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นมาก
          "ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยนั้น นักลงทุนยังรอฟังการแสดงความคิดเห็นของเฟดเกี่ยวกับเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจสหรัฐ" แปงกล่าว
          ขณะที่ คอนราโด เบท นักวิเคราะห์จากบริษัทซิตี้เซคอนไลน์ในกรุงมะนิลา กล่าวว่า "ในสัปดาห์หน้าตลาดหุ้นเอเชียจะเผชิญปัจจัยลบมากมาย โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่เคลื่อนตัวผันผวน แม้ราคาน้ำมันร่วงลงเมื่อคืนนี้ แต่ราคายังอยู่ในระดับสูงและเคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานด้านอุปสงค์-อุปทาน และขณะนี้ยังไม่มีมาตรการใดๆที่สกัดกั้นความร้อนแรงของราคาน้ำมันได้"
          ลุซ ลอเรนโซ นักวิเคราะห์จาก เอทีอาร์ กิมเอ็ง กล่าวว่า "ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นกำลังเป็นปัจจัยลบที่คุกคามเศรษฐกิจ ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาเศรษฐกิจเอเชียส่วนใหญ่ชะลอตัว และคาดว่าจะชะลอตัวลงอีกในไตรมาส 2"
          ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงกดดันหลังจาก แกรี คริทเทนเดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (CFO) ของซิตี้กรุ๊ป เตือนว่า ซิตี้กรุ๊ปซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาในแง่ของสินทรัพย์ อาจต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีลงอีกในไตรมาส 2 เนื่องจากขาดทุนในตลาดซับไพรม์ และหลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยตัวเลขกำไรทรุดตัวลง 61% สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน