ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียร่วงลงถ้วนหน้าในช่วงเช้าวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงกว่า 200 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดเช้าร่วงลง 162.27 จุด หรือ 1.2% แตะที่ระดับ 13,779.81 จุด ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดเช้าลบ 44.37 จุด หรือ 1.57% แตะ 2,787.36 จุด ส่วนดัชนีคอมโพสิตดิ่งลง 30.89 จุด หรือ 1.8 แตะที่ 1,700.11 จุด
จูเลียต ซาลี นักวิเคราะห์จากคอมเซคกล่าวว่า "การที่ตลาดหุ้นในเอเชียดิ่งลงในช่วงเช้าวันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกหากมองที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลง ซึ่งถือเป็นปัจจัยลบสำคัญที่ดึงตลาดลง โดยหุ้นกลุ่มการเงินถูกกระหน่ำขายอย่างหนักหลังจากเมอร์ริล ลินช์ เตือนว่าอาจมีธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของสหรัฐอีกหลายแห่งประกาศลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีและระดมทุนเพื่อปรับดุลบัญชีให้แข็งแกร่งขึ้น หลังจากประสบภาวะขาดทุนเนื่องจากปัญหาในตลาดสินเชื่อ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 220.40 จุด หรือ 1.83% ปิดที่ 11,842.69 จุด หลังจากราคาดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ และ S&P ประกาศลดอันดับเครดิตบริษัทผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ของสหรัฐ รวมถึง เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ฟอร์ด มอเตอร์ และไคร์สเลอร์ แอลแอลซี
นอกจากนี้ นักลงทุนจำนวนมากในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังปลีกตัวออกไปอยู่นอกตลาด ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมเพื่อตัดสินทิศทางอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 24-25 มิ.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่คาดว่าจะปรับขึ้นในช่วงปลายปีหากตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นจนสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวม สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--