โบรกฯ แนะ"เก็งกำไร"BT รอขายราคาเทนเดอร์ แต่ยังเสี่ยงก.คลังขวาง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 24, 2008 10:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โบรกเกอร์เสียงแตก บางค่ายแนะ"ซื้อ"หุ้น ธ.ไทยธนาคาร(BT)ให้เล่นเก็งกำไรรอขาย เมื่อ CIMB กรุ๊ป จะทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ที่ 2.10 บาท/หุ้น ยังมีราคาห่างกับราคาในกระดานหลักอยู่ แต่บางรายก็ไม่แนะให้เสี่ยง หากถือไว้ควรขายทำกำไร เพราะยังไม่ชัดเจนว่าก.คลังจะอนุมัติให้ขยายเพดานการถือหุ้นของต่างชาติใน BT หรือไม่  
แต่ในแง่ปัจจัยพื้นฐานก็มองตรงกันว่า BT ยังไม่ใช่หุ้นที่เหมาะเข้าไปลงทุนระยะยาว เพราะยังมีปัญหาการดำเนินงาน และคาดว่าอาจจะมีการเพิ่มทุนอีกรอบหลังจาก CIMB เข้าบริหารแล้ว
วานนี้หลังตลาดปลด SP ช่วงเช้าราคาหุ้นทะยานไปสูงสุดที่ 1.93 บาท ก่อนราคาจะไต่ลงในช่วงก่อนปิดตลาดและปิดที่ 1.71 บาท บวก 0.39 บาท (+29.55%)
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.กสิกรไทย ซื้อ 2.00
บล.ฟิลลิปฯ ซื้อเก็งกำไร 0.95
บล.บีฟิท ขายทำกำไร 0.93
บล.เอเซียพลัส ถือ 0.78
บล.กิมเอ็งฯ ขายทำกำไร -
น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)มองว่า ขณะนี้ยังสามารถซื้อเก็งกำไรหุ้น BT ได้ จากการที่ CIMB เข้าซื้อหุ้นจากกองทุนฟื้นฟูฯในราคา 2.10 บาท และจะต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ที่ราคาดังกล่าว แม้จะมองว่า CIMB เข้าซื้อหุ้น BT ในราคาแพงเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี ที่ 0.80 บาท แต่เชื่อว่า CIMB ยอมจ่ายเพราะคงต้องการเข้ามาขยายกิจการในประเทศไทยโดยเร็ว
"เราให้ซื้อเก็งกำไร เพื่อรอขายตอนทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ที่ 2.10 เพราะจะได้ gain ตรงนั้น แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ยังไม่ทราบเวลาที่ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ แต่คนที่มีอยู่คนถือต่อไป"น.ส.ศศิกร แนะนำ
แต่ในระยะยาว BT ไม่น่าสนใจเพราะยังมีความเสี่ยง โดยคาดว่าหลังจากที่ CIMB เข้ามาคงต้องมีการเพิ่มทุนอีกรอบ เพราะเงินกองทุน(Tier)ยังต่ำในระดับ 9% ใกล้กับเกณฑ์ที่ทางการกำหนดไว้ที่ 8.5%
อย่างไรก็ตาม ตามพ.ร.บ.สถาบันการเงิน จะมีผล 3 ส.ค. นี้ที่จะให้ต่างชาติสามารถเข้าถือหุ้นธนาคารได้สูงสุด 49% แต่หากถือเกินกว่านั้นต้องรออนุมัติจากรมว.คลัง และมองดูแล้วก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะราคาที่ CIMB เสนอให้เป็นราคาสูงสุด และ BT ก็เป็นธนาคารที่ยังมีปัญหา ดังนั้นทางการไทยจึงน่าจะพอใจที่ได้ CIMB มาเข้าถือหุ้น BT
แต่การอนุมัติจากทางการยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไร อย่างไรก็ตาม CIMB ต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เพราะถือเกิน 25% อยู่แล้ว
ด้าน บล.กสิกรไทย แนะนำให้ซื้อ หุ้น BT จนถึง 2 บาทต่อหุ้น เนื่องจากราคาเสนอซื้อ (Tender offer) จะต้องไม่ต่ำกว่า 2.10 บาท เนื่องจาก กองทุนฟื้นฟูประกาศสัญญาซื้อขายนี้อย่างเป็นทางการในเวบไซต์ของแบงก์ชาติและแจ้งอย่างชัดเจนว่า CIMB จะทำการเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ BT จึงเชื่อว่าความเสี่ยงจากการที่สัญญานี้จะล่มคงไม่มากนัก
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ยังไม่ประกาศออกมาคือราคาเสนอซื้อ วันเริ่มต้นรับซื้ รวมทั้งช่วงเวลาทำการเสนอซื้อ ซึ่งยังต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธปท. ก.คลัง โดยตามกฎของ ก.ล.ต. ราคาเสนอซื้อจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาซื้อสูงสุด ก่อนยื่นทำการเสนอซื้อ 90 วันหรือในกรณีนี้คือไม่ต่ำกว่า 2.10 บาทต่อหุ้น
"เชื่อว่า CIMB จะทำการเสนอซื้อหุ้นในเดือนส.ค.2008 หลังพรบ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 มีผลบังคับใช้ (แม้ตามกฎหมายปัจจุบันไม่จำเป็นต้องรอพ.ร.บ.ใหม่ เนื่องจากการถือต่างชาติหุ้นเกินสัดส่วนที่กำหนด จึงต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงการคลัง) หากเป็นไปตามคาด ผู้ถือหุ้นรายย่อยน่าจะได้รับเงินในเดือน ต.ค.2008" บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์
ขณะที่นักวิเคราะห์จากบล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กลับมองว่าดีลนี้ยังไม่สำเร็จ เพราะต้องรอการอนุมัติจาก ก.คลังก่อน ซึ่งเท่าที่มีข่าวออกมาการขายครั้งนี้ก็มีความขัดแย้งระหว่างกองทุนฟื้นฟูฯกับทางก.คลังด้วย ดังนั้นคงต้องใช้ระยะเวลาในการอนุมัติ และ ไม่รู้ว่าจะอนุมัติหรือไม่ ถือว่ายังมีความเสี่ยงอยู่
"ถามว่าน่าสนใจไหม คือคิดว่าถ้าไม่มีหุ้น BT อยู่ จะเข้าไปซื้อตอนนี้(1.80 บาท) ก็ต้องขึ้นอยู่กับนักลงทุนเอง ว่าคุณจะรับความเสี่ยงไหม ถ้าก.คลังอนุมัติ เขา (CIMB) ก็ต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ซึ่งก็ได้ 2.10 บาท แต่ถ้าไม่อนมุติ ราคา 1.80 ก็ถือว่าสูงแล้ว"นักวิเคราะห์กล่าว
ทั้งนี้ ราคาในกระดานเวลานี้ สูงกว่ามูลค่าทางบัญชีที่มีอยู่ 0.73 บาท ณ สิ้นไตรมาส 1/51 เทียบแล้วราคาในกระดานมากว่า 2 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ซึ่งถือว่าแพง ดังนั้นคนที่เข้าซื้อต้องกล้ารับความเสี่ยง ว่าก.คลังจะอนุมัติและสามารรอเวลาที่รับทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ได้
แต่หากนักลงทุนที่ถือหุ้น BT อยู่แล้ว และขณะนี้มีกำไรแล้วก็น่าจะขายทำกำไรออกไปก่อน หรือลดสัดส่วนการถือลงมา แต่ก็ไม่ควรซื้อสำหรับนักลงทุนที่ยังไม่ได้ถือหุ้น BT ซึ่งราคาวานนี้ขึ้นแรงตั้งแต่เปิดตลาด และความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ ประกอบกับเมื่อพิจารณากับปัจจัยพื้นฐานแล้วก็ไม่แนะนำให้เข้าลงทุน
สำหรับ บล.บีฟิท เห็นว่า ราคาที่ CIMB กรุ๊ป ซื้อหุ้น BT จากกองทุนฟื้นฟู ฯ ค่อนข้างแพงเนื่องจาก CIMB ต้องจ่ายแพงถึง 2.91 เท่า ของมูลค่าหุ้นทางบัญชีของ BT เพื่อหาทางแทรกตัวเช้ามาทำธุรกิจธนาคารในไทยให้ได้ (หลังจากพลาดการซื้อ ACL จาก BBL) ดังนั้น CIMB จึงยอดจ่ายที่ราคาแพงได้
อย่างไรก็ตาม BT ก็เป็นธนาคารที่มีความเข้มแข็งของสินทรัพย์ดีขึ้นมากหลังการตั้งสำรองไว้เต็มที่แล้ว เรามองว่าราคาหุ้น BT ที่ CIMB ซื้อที่ 2.10 บาท ค่อนข้างแพง เนื่องจากเป็นการซื้อเพื่อทำธุรกิจในระยะยาวซึ่งคงต้องใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดคืนทุน
นอกจากนั้น เรามองว่า โดยทั่วไปแล้วสถาบันการเงินที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่จำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนตัวเองหลายด้านให้เป็นไปตามแนวทางการทำธุรกิจของเจ้าของรายใหม่ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ผลประกอบการในช่วงแรกหลังการเข้ามาของ CIMB จะยังไม่น่าสนใจอยู่เพราะ
ศักยภาพในการทำธุรกิจของ BT จะขึ้นกับ Synergy ที่จะเกิดขึ้น และแผนการทำธุรกิจหลังการเช้ามาของ CIMB ด้วย ดังนั้น การเก็งกำไรที่มากเกินไป (ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพคล่องของการซื้อขายหุ้นที่น้อย) จะทำให้ให้ความเสี่ยงสูงมากเมื่อเทียบกับพื้นฐานของธนาคารในขณะนี้
"ประเด็นที่น่าสนใจอีกเรื่องก็คือ CIMB จะยังให้ BT อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ต่อไปหรือไม่ ซึ่งเราจะติดตามต่อไปเนื่องจากประเด็นดังกล่าวจะมีผลต่อพื้นฐาน และการเก็งกำไรเช่นกัน" บทวิเคราะห์ของบล.บีฟิท ระบุ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กองทุนฟื้นฟูฯ ระบุในเอกสารเผยแพร่ว่า CIMB กรุ๊ป ของมาเลเซีย จะซื้อหุ้น BT ในส่วนที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถือทั้งหมด่จำนวน 2.81 พันล้านหุ้น หรือ 42.13% ของทุนจดทะเบียนที่ราคาหุ้นละ 2.10 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมราว 5.9 พันล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ