นายวีระ บูรพชัยศรี ประธานกรรมการบริหาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บมจ.เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้(METRO) คาดว่าจะมีการพิจารณาปรับเพิ่มราคาขายในโครงการเมโทร อเวนิว-สุขุมวิท 66 และโครงการเมโทร อเวนิว-รัชโยธินประมาณ 20% หลังจากที่บริษัทจะสรุปราราคาต้นทุนการก่อสร้างที่แท้จริงได้ในช่วงปลายเดือนก.ค นี้
ก่อนหน้านี้ บริษัทได้หยุดพักการขายทั้ง 2 โครงการออกไปประมาณ 1 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคาเหล็ก ซึ่งเป็นต้นทุนหลักปรับเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
"การพิจารณาการปรับราคาคงจะต้องมีการหารือกับคณะกรรมการของบริษัทว่าจะเป็นการทยอยปรับหรือปรับครั้งเดียว"นายวีระ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทไม่มีความกังวลในเรื่องของยอดขายใน 2 โครงการถึงแม้จะหยุดพักการขายเพื่อให้รู้ต้นทุนที่แท้จริง เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่ติดแนวรถไฟฟ้าซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ซื้อค่อนข้างมาก และตอนนี้บริษัทก็ได้ บมจ.ไพลอน(PYLON)ซึ่งเป็นผู้รับเหมารายใหม่ในการทำงานฐานราก รอเพียงผู้รับเหมางานโครงสร้างใหญ่ คาดว่าจะสรุปเร็ว ๆ นี้
นายวีระ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาแม้จะหยุดการขายแต่ก็มีผู้ที่สนใจได้เขียนชื่อจองเอาไว้ทั้ง 2 โครงการแล้ว และบริษัทน่าจะเปิดขายโครงการอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้โดยโครงการเมโทร อเวนิว-สุขุมวิท 66 มีมูลค่าโครงการ 1.3 พันล้านบาท ส่วนโครงการเมโทร อเวนิว-รัชโยธินจะแบ่งเป็นเฟส จากมูลค่ารวม 3 พันกว่าล้านบาท
"ในสภาวะตลาดโดยรวมที่ไม่ดีจากปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนที่มาจากเหล็กสูงขึ้น เพราะฉะนั้นเราจะต้องรอบคอบในการที่จะพัฒนาโครงการที่จะเกิดขึ้นและโครงการในอนาคต รวมถึงการซื้อที่ดินด้วย เพราะเราไม่เหมือนรายอื่นที่จะเปิดโครงการเยอะเพื่อเอาวอลลุ่มมาถัวเฉลี่ย cost "นายวีระ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นอกจากนี้ การปรับราคาของทั้ง 2 โครงการ จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพิ่มขึ้นมากกว่า 30%
*ขายที่ดินสาทรเงื่อนไขยังไม่ลงตัว สรุปกลาง ก.ค. ลั่นถ้าได้ราคาไม่ถูกใจอาจพัฒนาเอง
นายวีระ กล่าวว่า การขายที่ดินย่านสาทรจำนวน 2 แปลงมูลค่า 962 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปผู้ที่จะมาซื้อ เพราะยังอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขและราคาที่เหมาะสม แต่บริษัทไม่กังวลเพราะที่ดินดังกล่าวอยู่ในทำเลที่ดี หากไม่ได้ราคาดีเป็นที่พอใจ ก็อาจตัดสินใจกลับมาพัฒนาเองก็ได้ อย่างไรก็ตาม น่าจะได้ข้อสรุปภายในกลางเดือน ก.ค.นี้
"ครึ่งปีหลังเราก็ยังมีความหวังที่จะขายที่ดินย่านสาทร แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปเงื่อนไขได้ หากได้ราคาไม่ดี ก็ไม่รู้จะขายทำไม เพราะตรงนั้นก็เป็นที่ดินสวย น่าจะมีเวลาให้เราตัดสินใจ แต่หากไปถึงระยะเวลาหนึ่งแล้วก็จะสรุปว่าจะดำเนินการในที่ดินนั้นอย่างไร หรือจะหันมาทำเอง"นายวีระ กล่าว
ก่อนหน้านี้ ผู้บริหาร METRO ระบุว่าได้คัดเลือกผู้ที่เสนอเงื่อนไขและราคาประมูลที่ดิน 1,750 ตร.ว.ย่านสาทรหลือ 3-4 รายมีทั้งกลุ่มทุนในประเทศและต่างประเทศ จากผู้ที่แสดงความสนใจในเบื้องต้นประมาณ 10 ราย
นายวีระ กล่าวอีกว่า สำหรับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ก็ยังอยู่ในกระบวนการเตรียมการ ซึ่งหากดำเนินการได้ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ก็จะสามารถบันทึกเข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวม 3 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งจะมาจากยอดขายโครงการเซ็นต์หลุยส์ แกรนด์เทอเรส และ โครงการบ้านรวิภา-สุขุมวิท 103 รวมประมาณ 600 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--