นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น(TRC)ยอมรับว่า กำไรจากการดำเนินงานในปีนี้อาจจะลดลงจากเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ในช่วงต้นปีว่าจะมีกำไรสูงกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อภาระต้นทุน โดยเฉพาะราคาเหล็กปรับตัวขึ้นมาที่ 40 บาท/กก.จากก่อนหน้าที่ราคาอยู่ที่ 28 บาท/กก.โดยประเมินว่าจะมีผลกระทบต่อกำไรประมาณ 1-2% แต่อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าปีนี้น่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไร 95.90 ล้านบาท
นอกจากนั้น ในแง่ของรายได้ไม่น่ามีปัญหา คาดว่าจะทำได้ตามที่วางไว้รายได้ปีนี้ 2.4 พันล้านบาท สูงขึ้นจาก 1.6 พันล้านบาทในปี 50 เนื่องจากบริษัทมีงานในมือแล้วกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ส่วนใหญ่ในปีนี้
และขณะนี้ได้ยื่นประมูลงานใหม่ในประเทศเพิ่มอีก 2-3 โครงการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1-2 พันล้านบาท หากชนะประมูลก็จะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ราว 10% รวมทั้งมีงานที่เตรียมเข้าประมูลเพิ่มอีกหลายโครงการ
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าสตึงนำ มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ยังอยู่ระหว่างศึกษาโครงการ
"ตั้งแต่เราเห็นเทรนราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเราก็บริหารด้วยการซื้อล่วงหน้าไว้ส่วนหนึ่งประมาณ 2-3 พันตัน ต้องยอมรับว่าสถานกาณ์ตอนนี้ประเมินได้ยากจริงๆ ว่าจะเป็นยังไงโดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ยังปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งหากอยู่ที่ 120-130 เหรียญต่อบาเรลเราดูแลได้ แต่หากขึ้นมากกว่านี้ลำบาก และยังมีปัญหาการเมืองที่ไม่นิ่ง ทำให้คนไม่สบายใจชะลอการลงทุนอีก "นายสมัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาขายหุ้นในโครงการรอยัลราชดำริให้กับพันธมิตร ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องให้ TRS เป็นผู้รับเหมางาน ซึ่งประเมินเบื้องต้นว่าบริษัทจะได้รับเงินจากครั้งนี้ประมาณ 100 กว่าล้านบาท หากเข้ามาทันในช่วงไตรมาส 3/51 ก็อาจจะทำให้กำไรกลับมาอยู่ในระดับที่บริษัทคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ โครงการคอนโดมิเนียมรอยัลราชดำริมูลค่า 4,000 ล้านบาท อยู่ภายใต้บริษัท ราชเพลิน ซึ่ง TRC ถือหุ้นในสัดส่วน 35%
นายสมัย กล่าวต่อว่า ในส่วนงานต่างประเทศในช่วงไตรมาส 3-4/51 จะเห็นความชัดเจนในการเข้าไปรับงาน โดยบริษัทเข้าไปประมูลงานท่อก๊าซในประเทศโอมานมูลค่าประมาณ 50-60 ล้านเหรียญหสรัฐ จะรู้ผลในช่วงไตรมาส 3/51 และยังร่วมกับผู้ประกอบการรายอื่นเข้าไปประมูลงานในประเทศไนจีเรีย จะรู้ผลในช่วงไตรมาส 3/51 เช่นกัน
ส่วนจะเห็นสัดส่วนคงจะในปีหน้ามากกว่า ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท ที่จะทยอยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเขึ้นเป็น 50% ภายใน3-5 ปีข้างหน้า
นายสมัย กล่าวว่า บริษัทยังคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายของภาครัฐที่สนับสนุนการใช้ก๊าซธรรมชาติทดแทนน้ำมัน โดยจะสร้างปั๊มให้บริการก๊าซ NGV ขึ้นทั่วประเทศ ที่คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 37,000 ล้านบาท เป็นโอกาสของบริษัทในการที่จะเข้าไปประมูลงานในส่วนที่บริษัทมีความถนัด เช่น การวางท่อส่งก๊าซหากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--