บมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO) ชะลอแผนเข้าลงทุนทั้งโครงการโรงไฟฟ้าและเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียไปเป็นต้นปีหน้าจากเดิมปลายปีนี้ หลังต้นทุนธุรกิจสูงขึ้น และรอดูสถานการณ์ก่อน ขณะที่ยืนยันเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้านที่น่าจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าเกาะกงในกัมพูชา มองกรณีฝ่ายการเมืองพุ่งเป้าคัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารไม่มีกระทบถึงแน่
นายวิศิษฎ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทได้เข้าไปสำรวจดูทั้งโครงการโรงไฟฟ้า และเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียว่ามีโอกาสทางธุรกิจอย่างไร โดยไม่ได้เจาะจงว่าเป็นพื้นที่ใด ขณะเดียวกันก็ได้ให้พันธมิตรช่วยสำรวจด้วย ตามแผนจะเข้าไปร่วมทุนกับธุรกิจในฝ่ายละ 50% ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงไฟฟ้า ขณะนี้คงต้องชะลอออกไปเป็นปีหน้า
"ให้ดูรายละเอียดให้มากขึ้น เพราะมีความเสี่ยงอยู่เยอะ เราอยู่ระหว่างสำรวจ แต่เราไม่ได้เร่งรีบ ...เพราะความเสี่ยงที่เกิดขึ้นมาจากค่าน้ำมันที่สูงขึ้น ต้นทุนก็สูง ถ้าเราลงทุนก็ต้องใข้เงินเยอะกว่าปกติ ตอนแรกเราคิดว่าจะเข้าไปได้ปลายปีนี้ แต่นี่ก็ต้องชะลอไป สงสัยจะเข้าไปได้จริงๆ ก็คงประมาณ ต้นปีหน้า ก็ต้องปรับตัวเลขกัน" นายวิศิษฎ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO กล่าว
นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้แล้ว 1.4 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่ใช้สำหรับการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ ทั้งกัมพูชา ลาว เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งอาจจะใช้งบลงทุนไม่หมดทั้งจำนวน เพราะการลงทุนในอินโดนีเซียได้เลื่อนออกไป
โครงการแรกที่น่าจะมีความชัดเจนเร็วที่สุด คือ โรงไฟฟ้าที่เกาะกง ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 3/51 จะได้ข้อสรุปผลศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 7,800 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการประมาณ 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ก่อสร้างได้กลางปี 52 โดยจะมีการเจรจาขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ก่อนจะเริ่มเฟสแรกที่มีกำลังการผลิต 3,200 เมกะวัตต์
"เท่าที่ดูมีความเป็นไปได้สูง ตอนนี้ดูว่ามีอุปสรรคอย่างไรบ้าง โครงการยังมีความเสี่ยง เรื่องแหล่งถ่านหินที่จะเซื้อ และที่กักเก็บถ่านหิน และก็ระบบสายส่งที่จะเข้าไปในไทยให้ปลอดภัย" นายวิศิษฎ์ กล่าว
นายวิศิษฎ์ เชื่อว่า โครงการนี้ไม่น่าจะกระทบกับประเด็นที่มีกระแสคัดค้านการที่รัฐบาลกัมพูชายื่นขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว ขณะที่ยังมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนชายแดนไทย-กัมพูชา และถูกฝ่ายค้านหยิบยกเป็นประเด็นทางการเมืองในการโจมตีรัฐบาล
อนึ่ง โครงการนี้ EGCO ร่วมทุนกับ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง(RATCH) สัดส่วนรวมกัน 70% ส่วนที่เหลือเป็น บมจ.อิตาเลียนไทย ดิเวล็อปเม้นท์ (ITD) ร่วมทุน 25% และอีก 5% ถือโดยรัฐบาลกัมพูชา
นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า การลงทุนในลาวมี 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำเทิน 1 ขนาด 525 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างเจรจาปรับค่าไฟกับกฟผ.หลังต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น คาดจะสรุปผลเจรจาในสิ้นปีนี้ ก่อนจะเริ่มก่อสร้างในปี 52
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำอู บริษัทได้รับแจ้งให้เข้าร่วมทุนในโครงการนี้จากกลุ่มซิโนไฮโดรจากจีน ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการโดยตรง ซึ่งบริษัทยื่นข้อเสนอขอร่วมทุนในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 20-25% คาดว่าจะสรุปผลการเจรจาตกลงกับทางกลุ่มซิโนไฮโดรได้ภายในปลายปีนี้
ขณะที่การเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในเวียดนาม"NGHI SON"ขนาด 1.6 พันเมกะวัตต์ แบ่งเป็น 2 โรงๆ ละ 800 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 2 พันเหรียญสหรัฐ ตามกำหนดน่าจะรู้ผลประมูลในปลายปีนี้ โดย EGCO เข้าร่วมทุนกับบริษัทท้องถิ่นในสัดส่วน 25% และการลงทุนโรงไฟฟ้าในฟิลิปปินส์ 200 เมกะวัตต์ยังอยู่ระหว่างการเจรจา
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--