CI เลื่อนขยายกองทุนอสังหาฯ 500-1,000 ลบ.เป็นปีหน้าจากเดิมคาด H2/51

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 25, 2008 16:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดกร บมจ. ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเลื่อนแผนการขยายกองทุนอสังหาริมทรัพย์บางกอก( BKKCP ) ที่มีมูลค่าประมาณ 500-1,000 ล้านบาท จากมูลค่าของกองทุนฯ ประมาณ 1,000 ล้านบาทออกไปในปีหน้าแทนจากแผนเดิมที่จะนำสินทรัพย์เข้ามาขยายกองทุนเพิ่มในช่วงไตรมาส 3-4/51
เนื่องจากมองว่าภายใต้สถานการณ์ในขณะนี้ไม่ควรเร่งรีบดำเนินการ โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศที่ยังไม่เอื้อ รวมทั้งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการคัดเลือกสินทรัพย์ที่จะโอนเข้าไปในกองทุนด้วย แต่เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นสำนักงานให้เช่า
“การทำอะไรในช่วงนี้ต้องระวังและรอบคอบและคิดให้ดี เพราะการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจตอนนี้ถดถอยลง ช่วงนี้ทุกคนก็ยังได้รับผลค่าก่อสร้างก็ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันอีกเพราะฉะนั้นก็ต้องคิดให้ดีหน่อย แต่การที่เรามี Backlog อยู่กว่า 1.2 พันล้านบาททำให้เราไม่ต้องเหนื่อยมากในสถานการณ์ตอนนี้ “ นายสงกรานต์กล่าว
นายสงกรานต์ กล่าวต่อว่า Backlog ที่มีอยู่กว่า 1.2 พันล้านบาทจากโครงการที่เปิดขายในปีที่ผ่านมา 4 โครงการ คือ โครงการบ้านชานทะเล ชะอำ, โครงการ ดิ อิสสระ ลาดพร้าว, โครงการอิสสระ สุขุมวิท 42 และโครงการศรีพันวา คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้เป็นส่วนใหญ่ทำให้บริษัทเชื่อว่าในปีนี้การเติบโตของรายได้ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ 15-20% หรืออยู่ที่ประมาณ 1.2-1.3 พันล้านบาทจากปีก่อนที่มีรายได้รวมประมาณ 950- 1,000 ล้านบาท
และจากการที่บริษัทรุกเปิดโครงการในต่างจังหวัดซึ่งมีอัตรากำไรที่ดีกว่าในโครงการในกรุงเทพ รวมทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยง และหารายได้เพิ่มได้ด้วย ส่วนรายได้จากค่าเช่าและการบริหารอาคารยังคงเติบโตต่อเนื่องได้ดี
นายสงกรานต์ กล่าวยอมรับว่า ในเดือนนี้บริษัทได้ปรับราคาขายบ้านขึ้นประมาณ 5-7% เพื่อรองรับค่าก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับเพื่อขึ้นต่อเนื่อง ส่วนจะปรับเพิ่มอีกหรือไม่อยู่ที่สถานการณ์
สำหรับแผนในการซื้อที่ดินประมาณ 20ไร่ที่ภูเก็ต และการซื้อเพิ่มที่กระบี่ และสมุยเพื่อรองรับการขยายโครงการใหม่ในอนาคตนั้นยังคงเจรจาอยู่ แต่คาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในครึ่งหลังปีนี้ ซึ่งจะเป็นเม็ดเงินจากงบลงทุนที่ได้วางไว้ประมาณ300-400 ล้านบาท และในครึ่งหลังก็จะเปิดโครงการใหม่ประมาณ 2 โครงการมูลค่าโครงการรวมประมาณ 1.5-2 พันล้านบาทเน้นต่างจังหวัดเพราะยังมีอัตราการเติบโตที่ดีโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ