โบรกฯเชียร์"ซื้อ"LPN มอง Q2/51กำไรโตโดดเด่น-ยอดขายคอนโดฯกินยาวถึงปี 53

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 26, 2008 11:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โบรกเกอร์แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เพราะคาดการณ์กำไรในไตรมาส 2/51 จะโตกว่าเท่าตัวจากไตรมาส 1/51 เป็นเพราะยอดจองคอนโดมิเนียมยังคงดีต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวโครงการใหม่ ย่านพระราม 9-รัชดา ยอดจองเกินกว่า 60% ถือว่าดีทีเดียวท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้ง ยอดโอนที่ตกค้างจากไตรมาส 1 จากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จนถึงขณะนี้บริษัทมียอดขายอยู่ในมือ(backlog)ไว้แล้วประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท รอรับรู้ไปจนถึงปี 53 
ขณะที่ราคาหุ้นร่วงลงไปมากก่อนหน้านี้สะท้อนปัจจัยลบทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ยขึ้น เงินเฟ้อ และตามภาวะตลาดไปหมดแล้ว โดยเมื่อ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ราคาหุ้นลงมาลึกสุดที่ 5.05 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ แต่วานนี้ราคาหุ้นได้ดีดขึ้นไป ราคาสูงสุดที่ 6.10 บาท และปิดที่ 6.05 บาท โบรกเกอร์มองน่าเข้าซื้อช่วงนี้เพราะยังมี upside gain อยู่
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.กิมเอ็งฯ ซื้อ 9.20
บล.บัวหลวง ซื้อเก็งกำไร 8.50
บล.เคทีบี ซื้อ 7.35
บล.กสิกรไทย ซื้อ 7.50
บล.ฟิลลิป ซื้อ 6.70
นางสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี มองว่าผลประกอบการของ LPN ในไตรมาส 2/51 จะมีกำไรก้าวกระโดดจากไตรมาส 1/51 จาก 204 ล้านบาท เพิ่มเป็น 455 ล้านบาท ทำให้ประมาณการกำไรทั้งปี 51 อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท เพิ่มจากปี 50 ที่มีกำไร 928 ล้านบาท
ตั้งแต่ต้นปี บริษัทมียอดพรีเซลแล้ว 5.7 พันล้านบาท เท่ากับ 52% ของเป้าหมายทั้งปีที่คาดไว้ 1.1 หมื่นล้านบาท โดยไตรมาส 1/51 มียอดพรีเซลจำนวน 2.9 พันล้านบาท และในไตรมาส 2 มียอดพรีเซล 2.8 พันล้านบาท ส่งผลให้มี backlog ขณะนี้จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท รับรู้รายได้ไปถึงปี 53
"ที่เราประเมินราคาบน P/E ที่ 9 เท่า ปรับลงจากเดิมที่ P/E 11 เท่า จากเรื่องแนวโน้มดอกเบี้ยขึ้นและเศรษฐกิจ แต่เนื่องจาก earning ยังมีแนวโน้มที่ดีอยู่ ประกอบกับราคาที่ปรับลดลงมากที่รับเรื่องความเสี่ยงแล้ว ฉะนั้น target ใหม่ที่เราปรับใหม่ก็ยังมี upside อยู่ ก็ยังคงแนะนำซื้อ" นส.สุภากร กล่าว
นักวิเคราะห์จาก บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)มองว่า การเปิดตัวโครงการใหม่เฟสแรกของโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 9-รัชดา มียอดจองถึง 70% ถือว่าประสบความสำเร็จ โดยมองว่าเป็นเพราะอยู่บนทำเลที่ดีใกล้รถไฟฟ้า และราคาคอนโดมิเนียมก็ถูก ซึ่งตรงกับความต้องการในยุคที่ราคาน้ำมันแพง อัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้ยอดจองโครงการล่าสุดได้รับอานิสงส์ที่ดี
และในไตรมาส 2/51 มีผลประกอบการที่ดีมาก เนื่องมาจากมียอดโอนที่ตกค้างมาจากไตรมาสแรก คาดว่ารายได้ในไตรมาส 2/51 มีประมาณ 2.8 พันล้านบาท เทียบกับ ไตรมาส 1/51 ที่มีรายได้ 1.3 พันล้านบาท ฉะนั้น กำไรในไตรมาส 2 นี้จะโตมาก รวมทั้งได้ประโยชน์จากเรื่องภาษีที่ตามมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
"ราคาหุ้นได้ปรับลงมาก จากภาวะเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อ น้ำมันแพง อัตราดอกเบี้ยขึ้น ผมมองว่าพวกนี้เป็นตัวถ่วงทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นเพราะ LPN ทำคอนโดฯราคาถูก ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งดีมานด์เพิ่มขึ้น" นักวิเคราะห์กล่าว
ด้านบล.ฟิลลิป เห็นว่า ยอดจองเฟสแรกของโครงการเปิดใหม่ที่พระราม 9-รัชดา เข้ามากว่า 62% หรือ 1.6 พัน ล้านบาท จากมูลค่า 2.6 พันล้านบาท เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นระดับของยอดจองที่ทำได้ค่อนข้างเป็นระดับที่ดี เป็นเพราะจุดเด่นของโครงการอยู่ที่ทำเลของอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพระราม 9 ส่วนการเปิดขายเฟส 2 จะเปิดในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ มองความเสี่ยงในด้านรายได้ปี 51 ไม่มาก ขณะที่การก่อสร้างของโครงการเพื่อส่งมอบในปี 51 น่าจะคืบหน้าไปมาก ความเสี่ยงในด้าน Margin น่าจะต่ำ อย่างไรก็ดี คาดหมาย Gross Margin ในปี 51 ไว้เพียง 29% เทียบกับ 34% ในปีก่อน เนื่องจากสัดส่วนการรับรู้รายได้จากโครงการ ที่ท่าพระ และคอนโดฯทาว์น รามอินทรา และบดินทร์เดชา สร้าง Margin ในช่วง 28-30% ทำให้คาดหมายการเติบโตของกำไรก่อนรายการพิเศษปี 51 ไว้เพียง 4% แม้ว่ายอดรับรู้รายได้จะเติบโต 14% ส่วนแนวโน้มกำไรปี 52 ยังไม่ชัดเจน รอดูแผนการเปิดโครงการใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้
"ที่ผ่านมาเราไม่ได้มอง LPN เป็น Growth Play เนื่องด้วยการดำเนินธุรกิจที่เน้นการพัฒนาโครงการคอนโดฯเป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันกระแสการแข่งขัน รวมถึงความยากลำบากในการบริหาร Margin ...ราคาหุ้นในระดับล่าสุดลงมาซื้อขายเพียง 6 เท่าของกำไรต่อหุ้นปี 51 ซึ่งใกล้เคียง กับช่วง P/E ต่ำสุดของ 3 ปี (48-50) ทำให้ Downside ของหุ้นไม่มาก" บทวิเคราะห์ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ