ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 350 จุดและแตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือนเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์ ซึ่งตอกย้ำความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งลง 358.41 จุด หรือ 3.03% ปิดที่ 11,453.42 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 38.82 จุด หรือ 2.94% ปิดที่ 1,283.16 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 79.89 จุด หรือ 3.33% ปิดที่ 2,321.37 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.54 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.30 พันล้านหุ้น
แจ็ค แอ็บลิน นักวิเคราะห์จากแฮร์ริส ไพรเวท แบงค์ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า "นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นด้วยความตื่นตระหนกหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นทะลุระดับ 140 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ภายหลังจากนายชากิบ คาลิล รัฐมนตรีพลังงานแอลจีเรีย ในฐานะประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจจะปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 150 - 170 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วงเวลาที่ประเทศตะวันตกเข้าสู่ฤดูร้อน และข่าวที่ว่าลิเบียเตรียมลดปริมาณการผลิตน้ำมัน"
"ตลาดยังถูกกระทบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสัญญาณที่บ่งชี้ถึงปัญหาในธุรกิจการเงิน อุตสาหกรรมไฮเทค และอุตสาหกรรมรถยนต์ หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ แนะนำให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 53 ปี" แอ็บลินกล่าว
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีอิทธิพลต่อภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้ได้แก่ รายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่มีการปรับทบทวนแล้ว ขยายตัว 1.0 % ตามคาดในไตรมาสแรกของปี 2008 หลังจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและยอดส่งออกแข็งแกร่งขึ้น
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.0% แตะระดับ 4.99 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.93 ล้านยูนิต และกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงงานทรงตัวที่ 384,000 ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 มิ.ย.
ทั้งนี้ หุ้นจีเอ็มดิ่งลง 11% แตะระดับ 11.43 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 53 ปี หลังจากโกลด์แมน แซค์แนะนำให้นักลงทุนขายหุ้นจีเอ็ม เนื่องจากจีเอ็มอาจต้องเพิ่มทุน และลดการจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นผลมาจากอุตสาหกรรมรถยนต์ชะลอตัวลงอย่างหนัก
หุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลงกว่า 6% หุ้นเมอร์ริล ลินช์ ร่วงลง 7% หลังจากถูกโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุน ส่วนหุ้นออราเคิลซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟท์แวร์ด้านธุรกิจ ร่วงลง 5% และหุ้นรีเสิร์ช อิน โมชัน ร่วงลงกว่า 13% หลังจากบริษัททั้งสองปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--