นักวิเคราะห์คาดวิตกเงินเฟ้อ-แบงค์ชาติขึ้นดบ.อาจฉุดตลาดหุ้นเอเชียดิ่งต่อสัปดาห์หน้า

          นักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นในเอเชียจะร่วงลงต่อสัปดาห์หน้า เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นแตะระดับ 140 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกเมือคืนนี้ และความกังวลที่ว่าธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชียอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
          ปาร์ก มุน-วัง นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ฮุนไดในกรุงโซลกล่าวว่า "บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียถูกปกคลุมด้วยความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและความผันผวนในตลาดการเงิน ซึ่งคาดว่าความกังวลในเรื่องเหล่านี้จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นในเอเชียไปจนถึงสัปดาห์หน้า ตลาดหุ้นเอเชียกำลังเผชิญกับปัจจัยลบรอบด้าน ขณะที่นักลงทุนก็ต้องจมอยู่กับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินของประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมถึงสหรัฐ"
          ธนาคารกลางไต้หวันเป็นธนาคารกลางรายล่าสุดในเอเชียที่ประกาศใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน โดยธนาคารกลางประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.125% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเพิ่มขึ้นเป็น 3.625% จากเดิมที่ 3.50%
          นักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อหรือไม่ แม้นักวิเคราะห์บางกลุ่มเชื่อว่าเฟดจะยังคงตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.00% เพราะการขึ้นดอกเบี้ยในระยะนี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐทรุดตัวลงมากกว่าเดิม
          นอริโก กาเมน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์บีเอ็นไอในกรุงจาการ์ต้า คาดว่า ธนาคารกลางอินโดนเซียจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมวันพฤหัสดีหน้า เนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อ มีแนวโน้มพุ่งขึ้นเหนือระดับ 11% ในเดือนมิ.ย. โดยอินโดนีเซียจะเปิดเผยตัวเลขซีพีไอในวันอังคารหน้า
          ส่วนภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวนั้น คาดว่านักลงทุนจะจับตาดูผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (ทังกัน) ไตรมาส 2 ซึ่งธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีกำหนดจะเปิดเผยในวันอังคารหน้า รวมทั้งข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยอดสั่งซื้อด้านการก่อสร้าง และผลผลิตรถยนต์ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน