บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ในฐานะแกนนำผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นที่เสนอขายของบมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี(AGE) นำเสนอบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ โดยประเมินราคาเป้าหมายหุ้น AGE ที่ระดับ 12.20 บาท/หุ้น อยู่ที่ PER 12 เท่า ต่ำกว่า PER ของตลาด MAI ที่อยู่ในระดับ 14 เท่า และเป็นระดับ PER ที่ต่ำกว่าของ UMS ซึ่งอยู่ในธุรกิจเดียวกันที่ให้ PER เป้าหมายที่ 15 เท่า (เนื่องจาก UMS มีอัตราส่วนทางการเงินที่ดีกว่า) มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.1%
หากราคาหุ้น IPO ของบริษัทที่จะเสนอขายช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้มีส่วนลดมากกว่า 20% จากราคาที่เหมาะสมที่ประเมินไว้ ก็ถือเป็นระดับราคาที่น่าสนใจลงทุน เมื่อเทียบกับการเติบโตของบริษัทและอัตราผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาหุ้น (capital gain) และอัตราเงินปันผลตอบแทน
AGE ประกอบธุรกิจนำเข้าถ่านหินและจัดจำหน่ายถ่านหินสะอาด (clean coal) คุณภาพสูงจากต่างประเทศ ให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ภายในประเทศ รวมถึงจัดจำหน่ายกะลาปาล์ม เนื่องจากถ่านหินและกะลาปาล์มเป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนที่ถูกกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ ประกอบกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เริ่มหาช่องทางการใช้พลังงานอื่นๆ เข้ามาทดแทนการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตลง
ดังนั้น ถ่านหินจึงถูกนำมาใช้ทดแทนการใช้น้ำมันเตา ซึ่งจะเห็นได้ว่าปริมาณการใช้น้ำมันเตาในปีที่ผ่านมาลดลงถึง 28% yoy และในไตรมาสแรกปริมาณการใช้น้ำมันเตาก็ลดลง 11% yoy ในขณะที่ปริมาณการใช้ถ่านหินในปีที่ผ่านมา กลับเพิ่มขึ้นถึง 31% yoy และเติบโตต่อเนื่องอีก 54% ในไตรมาสแรก ดังนั้นเห็นว่าบริษัทจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมามากและจะมีอัตราการขยายตัวของรายได้และผลกำไรเติบโตก้าวกระโดดไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
จากการที่ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงที่มีการเติบโตอย่างมาก ส่งผลให้จำนวนลูกค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วจาก 55 รายในปี 2548 เป็น 196 รายในปี 2549 และ 300 รายในปี 2550 และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 400 รายในปีนี้ ทำให้เราคาดว่าบริษัทจะมีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินเติบโตถึง 75% ในปีนี้เป็นประมาณ 6 แสนตัน มีรายได้เติบโตสูงถึง 81% yoy และมีผลกำไรเติบโตก้าวกระโดด 125% yoy ในปีนี้เป็น 142 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.02 บาท
ส่วนในปีหน้าคาดว่าปริมาณการจำหน่ายถ่านหินจะเติบโตอีก 33% yoy และผลกำไรเติบโต 48% yoy เป็น 210 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.50 บาท (จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและอัตราภาษีที่ลดลงจาก 30% เหลือ 20% จากการเข้าจดทะเบียนในตลาด MAI)
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--