นายวิชา พลูวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) คาดปี 51 จะมีรายได้เติบโต 20-25% จากปีก่อนมีรายได้ 6.75 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สูงขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ในระดับ 15-20%
แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกรายได้ยังเติบโตไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่คาดว่าในไตรมาส 4/51 จะมีรายได้เติบโตอย่างโดดเด่น หลังจากมีภาพยนตร์ทั้งไทยและต่างประเทศฟอร์มยักษ์เข้าฉาย ซึ่งปีนี้รายได้หลักยังมาจากธุรกิจภาพยนตร์ 45% ธุรกิจมีเดีย 15% ธุรกิจค้าปลีก 10% นอกนั้นเป็นรายได้อื่น
"ปีนี้น่าจะเป็นปีที่สร้างอัตรากำไรขั้้นต้นได้ดี และส่งผลดีต่อกำไรสุทธิด้วย เพราะธุรกิจที่ลงทุนเริ่มอยู่ตัว และอัตรากำไรขั้นต้น ไม่สวิงเมื่อที่ผ่านมา เราก็ยังเชื่อมั่นว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ดีของเรา"นายวิชา กล่าว
สำหรับการขยายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF) นั้น นายวิชา กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายขยายขนาดกองทุนเป็น 1 หมื่นล้่านบาทภายในปี 52 จากปัจจุับันที่มีมูลค่า 3 พันล้านบาท โดยเบื้องต้นจะนำโครงการที่เพิ่งเปิดดำเนินการขายเป็นสินทรัพย์เพิ่มเติมให้กับกองทุน ได้แก่ โครงการรัชโยธินอเวนิว โดยจะรอให้มีอัตราการเช่าเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสินทรัพย์ือื่นที่กำลังพิจารณานำเข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ MJLF
ปัจจุบัน MAJOR ลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมมูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย บมจ. เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (MPIC), บมจ. สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ (SF) , บมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ (CAWOW) และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ MJLF
นายวิชา กล่าวว่า ขณะนี้ MAJOR ยังไม่มีลงทุนเพิ่มในบริษัทจดทะเบียนใหม่ และบริษัทเดิมที่ถือหุ้นก็จะไม่ถือเกินกว่า 51% รวมถึง MPIC ที่ถือ 45% เนื่องจากไม่ต้องการนำงบบริษัทที่ลงทุนมารวมอยู่ในงบการเงินรวมของ MAJOR
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--