(เพิ่มเติม) AP คาดปี 51 รายได้โต 15% กำไรโต 30% ,ทยอยปรับราคาบางโครงการ 4-5%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 30, 2008 14:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้(AP) คาดว่าในปี 51 รายได้ของบริษัทจะเติบโตราว 15% ขณะที่กำไรจะเติบโตสูงถึง 30% เนื่องจากบริษัทได้รับประโยชน์จากมาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ ขณะที่ได้ทยอยปรับขึ้นราคาขายบางโครงการไปแล้วเฉลี่ย 4-5% ตามภาวะต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น
นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวางแผนและพัฒนาธุรกิจ AP กล่าวว่า กำไรในปีนี้เติบโตมาก เป็นเพราะผลดีจากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่แปรกลับมาเป็นรายรับ และทำให้ลูกค้าทยอยเข้ามาโอนอย่างต่อเนืือง ตั้งแต่ไตรมาส 2/51 และยังมาจากการเติบโตของรายได้ โดยเฉพาะจากโครงการคอนโดมิเนียมที่ปีนี้ทยอยรับรู้รายได้ 2-3 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท จากงานในมือ(backlog) ที่มีอยู่ขณะนี้ 1.7 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ไปตั้งแต่ปี 51 จนถึงปี 53
อนึ่ง ในปี 50 บริษัทมีกำไรสุทธิ 898.73 ล้านบาท และมีรายได้ 7.87 พันล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทจะบุว่าตั้งเป้ารายได้ปีนี้ราว 9 พันล้านบาท
นางภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ในปีนี้ต้นทุนการก่อสร้างได้เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น บริษัทจึงได้ทยอยปรับขึ้นราคาขายในบางโครงการ 4-5% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปรับขึ้นราคาในโครงการใหม่ โดยปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ครึ่งปีหลังจะเปิดใหม่ 10 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมใกล้แนวรถไฟฟ้า
"ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมา ดีมานด์จะชะลอลง แต่เราก็ยังมีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ ส่วนที่ต้นทุนปรับเพิ่มเราก็ได้ปรับแผนเพื่อรองรับสถานการณืที่เกิดขึ้น แต่ยังคงเน้นโครงการติดแนวรถไฟฟ้า เพราะลูกค้าบางราย มองว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง" นายภูมิพัฒน์ กล่าว
ส่วนโครงการเก่าที่ก่อสร้างเสร็จพร้อมอยู่ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ บริษั่ยังคงขายในราคาต้นทุนเดิม
สำหรับงบลงทุนซื้อที่ดินปีนี้มีำจำนวน 3 พันล้านบาท น้อยกว่าปีก่อนที่มี 4 พันล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีบริษัทได้ทยอยซื้อที่ดินแล้ว 1.7 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะพิจารณาตามความเหมาะสม
"ผมไม่เชื่อว่าปีนี้การเติบโตจะเป็นของบ้านเดี่ยว ผมว่าอยู่ที่ดีมานด์และทำเลว่าใครมองตลาดอย่างไร และมองได้ดีกว่าอย่างไร ภายใต้สิ่งกดดันที่มีอยู่" นายภูมิพัฒน์ กล่าว
นายภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ของเศรษฐกิจโดยรวม อาจจะส่งผลให้ผุ้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บางรายอาจได้รับผลกระทบทัี่ไม่สามารถกระแสเงินสดเพียงพอต่อการก่อสร้าง จากต้นทุนที่ปรับสูงขึ้น และส่งผลให้บางรายต้องปรับกลยุทธ์และหาวิธีดำเนินการ ทั้งในการตัดขายที่ดิน การหาพาร์ทเนอร์ และ ชะลอการสร้างโครงการ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ