ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเทรดวันแรกในไตรมาส 3 ด้วยการปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนบางกลุ่มเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และรายงานยอดขายที่ดีเกินคาดของบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันดิบยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 140 ดอลลาร์/บาร์เรล ยังเป็นปัจจัยลบที่ถ่วงบรรยากาศการซื้อขายให้ซบเซาลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 32.25 จุด หรือ 0.28% แตะระดับ 11,382.26 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ดีดขึ้น 4.91 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 1,284.91 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 11.99 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 2,304.97 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 5.75 พันล้านหุ้น เพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ที่ 4.91 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
โจเซฟ วี แบทติพาเกลีย นักวิเคราะห์จากบริษัท ไรอัน เบ็ค แอนด์ โค กล่าวว่า "ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ในช่วงบ่ายตลาดเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาและสามารถหนุนดัชนีให้ปิดในแดนลบได้ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายยังคงซบเซาเนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 141 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้"
"นอกจากนี้ ข้อมูลที่ระบุว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงทรุดตัวลงและยอดขายที่ย่ำแย่ของบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ยังคงทำให้นักลงทุนจำนวนมากวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในสหรัฐ" แบทติพาเกลียกล่าว
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างร่วงลง 0.4% ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐอาจยังไม่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้นในระยะใกล้นี้
หุ้นจีเอ็มดีดขึ้น 25 เซนต์ ปิดที่ 11.75 ดอลลาร์ หลังจากจีเอ็มเปิดเผยว่ายอดขายรถยนต์ในช่วงเดือนมิ.ย.ลดลง 18.2% แต่ยังลดลงไม่มากเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่หุ้นฟอร์ดดิ่งลง 10 เซนต์ ปิดที่ 4.71 ดอลลาร์ หลังจากฟอร์ดเปิดเผยว่ายอดขายเดือนมิ.ย.ทรุดตัวลง 27.9% ส่งผลให้ราคาหุ้นฟอร์ดดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายสิบปี
หุ้นเลห์แมน บราเธอร์ส ดีดขึ้น 5.8% หลังจากมีข่าวลือว่าเลห์แมน บราเธอร์ส ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐ อาจต้องขายกิจการให้กับธนาคารบาร์เคลย์สของอังกฤษ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--