ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าร่วง 7.69 จุด กลุ่มแบงก์-อสังหาฯฉุดตลาด เหตุเงินเฟ้อสูงกดดัน

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 760.90 จุด ลดลง 7.69 จุด(-1.00%) มูลค่าการซื้อขาย 5,284.31 ล้านบาท 
          การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ 759.79 จุด และแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 767.73 จุด
          นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่แดนลบ แม้ว่าระหว่างเทรดตลาดภูมิภาคจะมีการแกว่งทั้งบวก-ลบ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยรับแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้องวดมิ.ย.ที่ออกมาสูงเกินคาดถึง 8.9% ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากราคาน้ำมันและอาหารแพง 
          ดังนั้น อาจเกิดแรงบีบให้แบงก์ชาติอาจจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นและอาจมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ จึงส่งผลให้เช้านี้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกมามากจนฉุดตลาดฯให้ปรับตัวลง ด้านปัจจัยทางการเมืองก็ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงของตลาดฯเหมือนเดิมต่อไป
          แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดว่า ตลาดหุ้นไทยจะยังคงแกว่งตัวในแดนลบ โดยให้แนวรับถนัดไปไว้ที่ 754 จุดภายหลังจากที่หลุดแนวรับ 762 จุดในช่วงเช้า ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 762-765 จุด พร้อมให้คำแนะนำว่า ตลาดฯยังมีปัจจัยเสี่ยงมากถ่วงอยู่ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นจะต้องรีบซื้อ และหากต้องการเก็บหุ้นก็ให้เก็บหุ้นที่มีภูมิคุ้มกันเรื่องเงินเฟ้อสูง และควรจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ระดับ 4-5% ขึ้นไปด้วย จึงจะปลอดภัยกับการลงทุน  
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTTEP มูลค่าการซื้อขาย   450.80 ล้านบาท ปิดที่ 192.00 บาท ลดลง  1.00 บาท 
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย   389.74 ล้านบาท ปิดที่ 302.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
          BBL   มูลค่าการซื้อขาย   265.77 ล้านบาท ปิดที่ 115.00 บาท ลดลง  4.00 บาท
          SSE   มูลค่าการซื้อขาย   263.15 ล้านบาท ปิดที่   0.30 บาท ลดลง  0.01 บาท
          TOP   มูลค่าการซื้อขาย   234.70 ล้านบาท ปิดที่  51.00 บาท ลดลง  1.00 บาท