ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 160 จุดเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ และจากความกังวลที่ว่าบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) อาจขาดสภาพคล่อง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 166.75 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 11,215.51 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 23.39 จุด หรือ 1.82% ปิดที่ 1,261.52 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 53.51 จุด หรือ 2.32% ปิดที่ 2,251.46 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.52 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.46 พันล้านหุ้น
สตีเฟ่น คาร์ล นักวิเคราะห์จากบริษัทเดอะ วิลเลียมส์ แคปิตอล กรุ๊ป ในกรุงนิวยอร์ก กล่าวว่า "นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐและทั่วโลก หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 2.60 ดอลลาร์ แตะที่ระดับ 143.57 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันที่ร่วงลงเกินคาดและความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง"
"บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาหนักขึ้นเมื่อมีข่าวว่า จีเอ็มอาจประกาศล้มละลายเนื่องจากขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ส่งผลให้ราคาหุ้นจีเอ็มดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 10 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2497 ซึ่งเป็นช่วงที่ ดไวท์ เอเซนโฮเวอร์ เป็นประธานจีเอ็ม" คาร์ลกล่าว
ทั้งนี้ เมอร์ริล ลินช์ ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นจีเอ็ม โดยระบุว่าจีเอ็มอาจต้องการเงินทุน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องภายในองค์กร และมีความเป็นได้ว่าจีเอ็มจะล้มละลายหากตลาดรถยนต์ยังคงทรุดตัวลงต่อไป
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลของ ADP ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านข้อมูลจ้างงานของสหรัฐ ซึ่งระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐปรับลดตำแหน่งงานลง 79,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เดือนพ.ย.2544
ส่วนปัจจัยอื่นๆที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาดได้แก่การที่นายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งแตะระดับสุงสุด ราคาบ้านที่ทรุดตัวลง และความผันผวนในตลาดทุน จะทำให้ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยืดเยื้อออกไปอีก และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อของกลุ่มโรงงานภายในประเทศเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% ในเดือนพ.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนเม.ย.
ข่าวการขาดสภาพคล่องฉุดหุ้นจีเอ็มร่วงลง 15% แตะระดับ 9.98 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นไมโครซอฟท์ดิ่งลง 3.7% และหุ้นยาฮู ดีดขึ้น 3.4% หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานเกี่ยวกับไมโครซอฟท์ ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการยาฮู อิงค์
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพฤหัสบดี (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานประจำมิ.ย.จะร่วงลงอีก 60,000 อัตรา ซึ่งจะเป็นการปรับตัวลงติต่อกัน 6 เดือน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--