(เพิ่มเติม) TRUE คาดปี 51 รายได้เติบโต 8% ตามเป้า/ทรูมูฟเริ่มทดลอง 3G ปลายปีนี้

          บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)คาดว่า รายได้ของกลุ่มทรูฯ ในปี 51 ยังน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตได้ถึง 8% แม้ปัจจัยการเมืองและเศรษฐกิจจะมีผลกระทบต่อภาพรวม โดยรายได้หลัก 40% ยังมาจากทรูมูฟ ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะรักษาส่วนแบ่งตลาดได้ตามเป้าหมาย รองลงมาเป็น ทรูออนไลน์ และ ทรูวิชั่นส์ 
           "ช่วงครึ่งปีแรกยอมรับว่าปัจจัยเศรษฐกิจ ทำให้อุตสาหกรรมโทรมือถือชะลอตัวไปบ้าง รวมถึงทรูมูฟด้วย แต่เชื่อว่าทั้งปีจะดี เนื่องจากคนในระดับรากหญ้ามีรายได้สูงขึ้น และโทรศัพท์มือถือก็เป็นปัจจัยจำเป็นที่จะเลือกซื้อเป็นอันดับแรกๆ ดังนั้นจึงไม่เปลี่ยนแปลงเป้ารายได้และลูกค้าใหม่ในปีนี้" นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร TRUE กล่าว
          ทั้งนี้ ในปี 50 รายได้จากบริการโดยรวมของ TRUE(ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย:IC) อยู่ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากปี 49 
          นายศุภชัย กล่าวว่า ในช่วงปี 51-52 ทรูมูฟ เตรียมเงินลงทุน 5 พันล้านบาท เพื่อให้บริการระบบ 3G โดยคาดว่าจะเริ่มทดลองให้บริการได้ภายในปลายปีนี้ ขณะนี้ทรูมูฟได้รับอนุมัติจาก บมจ.กสท โทรคมนาคม ให้ใช้คลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิร์ต และอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัตินำเข้าอุปกรณ์จากคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)
          การเริ่มให้บริการ 3G จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทรูมูฟรักษาส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ โดยปีนี้ทรูมูฟตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 1 ใน 3 ของตลาดลูกค้าใหม่ที่คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 4 ล้านราย และจะเร่งพัฒนาบริการ wi-fi และ wi-max ไปพร้อมๆ กับ 3G ด้วยแต่คงไม่ใช้งบลงทุนมากเท่า 
          อย่างไรก็ตาม บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น(TRUE) ระบุว่า แม้อนาคตของบริการ 3G ในประเทศจะมีความชัดเจนแล้ว และทรูมูฟมีแผนใช้เงินลงทุนในช่วง 1-2 ปีนี้ แต่บริษัทยังไม่มีแผนนำทรูมูฟเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อระดมทุน เพราะศักยภาพของทรูมูฟยังเพียงพอที่จะหาเงินลงทุนได้ ทั้งจากกระแสเงินสดและเงินลงทุนของบริษัท
          นายศุภชัย กล่าวว่า ด้านบริการทรูวิชั่นส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับ บมจ.อสมท(MCOT) ในฐานะเจ้าของสัมปทานเคเบิลทีวี เพื่อขอแก้สัญญาให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ที่มีผลบังคับใช้และอนุญาตให้เคเบิลทีวีมีโฆษณาได้ไม่เกิน 6 นาทีต่อชั่วโมง ซึ่งคาดว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.ค.นี้ 
          ขณะนี้ทรูวิชั่นได้เริ่มทดลองมีโฆษณาในบางช่องแล้ว และหลังจากที่มีโฆษณาอย่างเป็นทางการ ทรูวิชั่นส์ก็จะเพิ่มช่องรายการอีก 20 ช่อง เพื่อให้สมาชิกมีคอนเท้นท์ที่หลากหลายมากขึ้นเป็นการชดเชยกันไป ดังนั้นแม้จะมีโฆษณาแต่ก็เชื่อว่าสมาชิกจะไม่บอกเลิกสัญญา 
          นายศุภชัย กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจในปีนี้จะไม่ค่อยดีนัก แต่เชื่อว่ากลยุทธในการพัฒนาตามแนวทาง convergence ทำให้บริษัทมาถูกทาง โดยล่าสุด บริษัทได้เปิดทรูมูฟ แฟล็กชิพ ช็อป ใช้งบลงทุน 40 ล้านบาท ที่สยามสแควร์ซอย 2 ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งกร่งให้แบรนด์ของบริษัทมากขึ้น เพราะเป็นที่รวมกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่และคนทำงานที่เป็นลูกค้าทรูมูฟในทุกๆ แบรนด์