นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ(BMCL) เปิดเผยว่า ขณะนี้ BMCL อยู่ระหว่างเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ 1.07 หมื่นล้านบาท จากเจ้าหนี้ 4 ราย คือ ธนาคารกรุงไทย(KTB) ธนาคารทหารไทย(TMB) ธนาคารนครหลวงไทย(SCIB) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) โดยจะขอยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกจากเดิมที่ต้องชำระ 12 ปี รวมทั้งขอปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปจากการเจรจาใน 1-2 เดือนข้างหน้า
การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้สืบเนื่องจากแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กม.มีความล่าช้า ทำให้จำนวนผู้โดยสารของ BMCLไม่เป็นไปตามเป้า โดยปัจจุบันปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินวันธรรมดาเฉลี่ย 190,000-200,000 เที่ยว ส่วนเสาร์-อาทิตย์ เฉลี่ยวันละ 100,000-150,000 เที่ยว จากเดิมที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารวันละ 200,000 เที่ยวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ขณะนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงเริ่มชัดเจนมากขึ้น จึงมีแนวโน้มที่ดีที่เจ้าหนี้จะปรับโครงสร้างหนี้ให้ และคาดว่าเมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการในอีก 3 ปีข้างหน้า BMCLจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากการที่ประชาชนเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าใต้ดินอีกประมาณ 100,000 เที่ยว/วัน หรือมีผู้โดยสารรวมประมาณ 300,000 เที่ยว/วัน ซึ่งช่วยให้บริษัทคุ้มทุนทันที
นายสมบัติ กล่าวถึงผลประกอบการของ BMCLในปีนี้ว่า จะลดการขาดทุนเหลือประมาณ 1,000 ล้านบาท จากเดิมที่ขาดทุน 1,400 ล้านบาท โดยจะมีรายได้เพิ่มอีกประมาณ 8-10% เนื่องจากมีการปรับโปรโมชั่นราคาค่าโดยสาร แม้ BMCL จะไม่ได้ปรับค่าโดยสารตามสัญญา ซึ่งการปรับโปรโมชั่นจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้(4 ก.ค.)จนถึงสิ้น 51
พร้อมกันนี้ ยังคาดว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มอีก 4% จากการที่ประชาชนเริ่มย้ายที่อยู่อาศัยมาอยู่แนวเส้นทางรถไฟฟ้า ส่วนด้านค่าใช้จ่ายเชื่อว่าไม่เพิ่มขึ้น เพราะการเดินรถไฟฟ้าได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันน้อย โดยรายได้ปัจจุบันของ BMCL อยู่ที่เดือนละประมาณ 110 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณ 120 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--