นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นเอเชียจะร่วงลงต่อในสัปดาห์หน้า เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 145 ดอลลาร์/บาร์เรลจุดชนวนให้เกิดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
โจมาร์ แลคสัน หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัทแคมปอส ลานูซา แอนด์ โค ในกรุงมะนิลากล่าวว่า "ตลาดหุ้นเอเชียถูกปกคลุมด้วยกระแสคาดการณ์ที่ว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้น เราคาดว่าตลาดหุ้นเอเชียจะร่วงลงในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้"
ขณะที่ เชน โอลิเวอร์ นักวิเคราะห์จากเอเอ็มพี แคปิตอล มาร์เก็ตส์ในซิดนีย์กล่าว่วา "ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงทำให้เศรษฐกิจโลกตกอยู่ในความเสี่ยง อีกทั้งส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนและผลประกอบการของบริษัทเอกชน หากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอีก ก็อาจทำให้เศรษฐกิจโลกเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอย"
การประชุม G-8 ซึ่งจะมีขึ้นที่ญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้านี้ ที่ประชุมจะหยิบยกประเด็นราคาน้ำมันเป็นวาระการประชุมหลัก ขณะที่นายโรเบิร์ต โซลิก ประธานธนาคารโลกได้ออกแถลงการณ์ฉุกเฉินในสัปดาห์นี้เพื่อเรียกร้องให้ที่ประชุม G8 หาทางรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
คาซูฮิโร่ ทากาฮาชิ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ไดวา เอสเอ็มบีซี กล่าวว่า "หากที่ประชุม G8 หามาตรการสกัดกั้นราคาน้ำมันได้ ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นเอเชีย แต่เราคาดว่าที่ประชุมจะไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวมากนักในเรื่องนี้"
ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นร้อนแรงในสัปดาห์นี้มาจากข่าวที่ว่าสำนักข่าวเอบีซี นิวส์ รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนทากอน) ว่า อิสราเอลทำการซ้อมรบครั้งใหญ่เพื่อส่งสัญญาณว่ามีแสนยานุภาพสูงพอที่จะโจมตีฐานที่ตั้งโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน
เมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 1.72 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 145.29 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนทุ่มซื้อเก็งกำไรก่อนที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 4 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--