เครือสหวิริยา ในกลุ่มเดียวกับบมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) คาดว่าคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในโครงการโรงถลุงเหล็ก ภายในไตรมาส 3/51 จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างโรงงาน โดยบริษัทยื่ื่่นขอนุมัติโครงการโรงถลุงเหล็กที่มีมูลค่าการลงทุน 9 หมื่นล้านบาท กำลังการผลิต 5 ล้านตัน/ปี ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนครบทั้ง 5 เฟส รวมกว่า 5 แสนล้านบาท
พร้อมกันนั้น บริษัทยังเตรียมมองหาพันธมิตรร่วมทุนในโรงถลุงเหล็ำกในอนาคต แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน และวางแผนจะนำโรงถลุงเหล็กดังกล่าวเข้าจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นภายใน 5 ปี
นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SSI และกรรมการเครือสหวิริยา กล่าวว่า โครงการโรงถลุงเหล็ก แบ่งเป็น 5 เฟส โดยเฟสแรกจะใช้เงินลงทุน 9 หมื่นล้านบาท กำลังการผลิต 5 ล้านตัน/ปี เงินลงทุนจะแบ่งเ็ป็น 5 หมื่นล้่านบาทเป็นการกู้จากธนาคารนำเข้าและส่งออกของจีน และส่วนที่เหลืออีก 4 หมื่นล้านบาท จะมาจาก SSI และ เงินกู้ในประเทศ โดยส่วนนี้เป็นการลงทุนที่ดิน ระบบน้ำ ไฟฟ้า และการพัฒนาโครงการ บุคลลากร
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถจะเริ่มก่อสร้างได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ และจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ปี 52
"โรงถลุงเหล็กจะก่อสร้างได้หรือไม่ ตอนนี้คงอยู่ที่บีโอไอ ซึ่งเราอยู่ระหว่างยื่่นตัวเลขในส่วนของค่าเงินบาทไปใหม่ รวมถึงการอัพเดทข้อมูล เพราะก่อนหน้านี้ ค่้าเงินที่เรายื่นไว้อยู่ที่ 39 บาท/ดอลลาร์ แต่ขณะนี้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็น 33 บาท/ดอลลาร์ และจากโครงการนี้เราสามารถลดมูลค่าการนำเข้าเหล็กได้ 20% จากปริมาณการนำเข้าเหล็กปีะละ 4 แสนล้านบาทต่อปี" นายวิน กล่าวว่า
นายวินกล่าวต่อว่า โรงถลุงเหล็กในเฟสต่อไป บริษัทจะทยอยขยายทีละเฟสจนครบ 5 เิฟส จนครบกำลังการผลิต 33 ล้านตัน/ปีภายใน 15 ปี และ ในอนาคต โรงถลุงเหล็กภายใต้กาบริหารของ บริษัท โรงถลุงเหล็กสหวิริยา จำกัด จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีทุนจดทะเบียน 3 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ มองว่า แนวโน้มราคาเหล็กในช่วง 6 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวสูงขึ้นแม้จะผันผวนบ้างก็ตาม ถือว่าป็นปัญหาของผู้ประกอบการเหล็กเอง รวมทั้งในและต่างงประเทศ แต่สำหรับ SSI การมีโรงถลุงเหล็ก จะช่วยเรื่องต้นทุนได้บ้าง ขณะที่การปรับขึ้นราคาทำได้ยากเพราะราคาเต็มเพดานแล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--