ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 12.47 จุด กังวลคดี"ยงยุทธ"พรุ่งนี้/ฟอร์ซเซลกดดัน

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 730.56 จุด ลดลง 12.47 จุด(-1.68%) มูลค่าการซื้อขาย 9,610 ล้านบาท
          การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีเปิดในแดนบวกได้เล็กน้อยจากนั้นเคลื่อนไหวในแดนลบจนกระทั่งปิดช่วงเช้า โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 744.98 จุด ช่วงบ่ายดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดบ่าย ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 730.32 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 46 หลักทรัพย์ ลดลง 312 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 82 หลักทรัพย์
          นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลง ทุกคนยังให้น้ำหนักในเรื่องของปัจจัยการเมืองพรุ่งนี้ ประเด็นหลักคือการเมืองทั้งคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่พรุ่งนี้จะมีการประกาศ ภาพรวมของตลาดหุ้นเอเชียยังไม่ค่อยมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป ทุกคน wait and see รอนอกตลาดว่าดัชนีจะปรับลงไปลึกแค่ไหน
          ปัจจัยอื่นตัวเลขเศรษฐกิจ ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนมิ.ย.ของไทย ที่จะประกาศวันพฤหัสฯ คิดว่าคงปรับลง และรอดูผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ในไตรมาส 2/51 สัปดาห์นี้ส่วนใหญ่รอ earning ของสหรัฐประกาศวันอังคาร 
          ขณะที่หุ้นพื้นฐานยังปรับลงเรื่อยๆ ซึ่งมุมมองต่างประเทศมองตลาดหุ้นเอเชียยังไม่น่าสนใจ ยิ่งแรงกดดันของเงินเฟ้อสูง ก็มีโอกาสสูงที่จะให้ยาแรงคือขึ้นดอกเบี้ย และถ้ายิ่งขึ้นดอกเบี้ยก็จะมีผลกระทบต่อการบริโภคในประเทศที่หดตัวลง เศรษฐกิจก็จะหดตัว เพราะฉะนั้นหุ้นที่ถูกขายจะเป็นหุ้นที่เชื่อมโยงกับการบริโภคในประเทศทั้งแบงก์ อสังหาฯ ยานยนต์ ขณะที่ราคาน้ำมันคงรอจับตาว่าจะ new high หรือไม่ 
          "ตลาดไม่รู้จะไปทางไหน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงนี้ จากเดิมก็รู้ว่าซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ ตอนนี้ถ่านหินก็ไม่แน่ใจ น้ำมันก็นิวไฮแล้วจะลงหรือเปล่าทำให้ตลาดไร้ทิศทาง วอลุ่มหายไป" นายถนอมศักดิ์ กล่าว
       นอกจากนี้ เป็นไปได้ที่หุ้นหลายตัวจะถูกฟอร์ซเซล เพราะหุ้นปรับลงมาจาก 887 จุด มาอยู่ที่ 733 จุดประมาณ 150 จุด คิดเป็น 15-16% โอกาสก็เป็นไปได้และเป็นตัวกดดันตลาดเช่นกัน ยังหาแนวรับอยู่ แต่ตอนนี้ดูที่ low เดิม 727 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTTEP  มูลค่าการซื้อขาย 1,396.19 ล้านบาท ปิดที่ 174.00 บาท ลดลง  8.00 บาท
          PTT    มูลค่าการซื้อขาย 1,000.64 ล้านบาท ปิดที่ 290.00 บาท ลดลง  8.00 บาท
          EMC    มูลค่าการซื้อขาย   663.65 ล้านบาท ปิดที่   0.27 บาท ลดลง  0.39 บาท
          BANPU  มูลค่าการซื้อขาย   515.05 ล้านบาท ปิดที่ 472.00 บาท ลดลง  8.00 บาท
          ADVANC มูลค่าการซื้อขาย   326.08 ล้านบาท ปิดที่  88.50 บาท ลดลง  1.00 บาท