ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากนางเจเน็ท เยลเลน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโกระบุว่า ตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปราะบาง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าบริษัทแฟนนี เม และเฟรดดี แมค อาจประสบปัญหาด้านการเงินมากขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 56.58 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 11,231.96 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 10.59 จุด หรือ 0.84% ปิดที่ 1,252.31 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับลง 2.06 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 2,443.32 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.52 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.37 พันล้านหุ้น
นักลงทุนมีท่าทีวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจหลังจากนางเยลเลน ผู้ว่าการเฟดสาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า "ตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปราะบาง และการจะกระตุ้นให้ตลาดฟื้นตัวขึ้นได้นั้นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวดิฉันคาดว่าตลาดอาจฟื้นตัวขึ้นได้อีกครั้งในปี 2551 แต่คาดว่าตลาดการเงินจะเผชิญภาวะที่ย่ำแย่ที่สุดก่อนที่จะดีดตัวขึ้น"
การแสดงความเห็นของนางเยลเลนยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับตลาด หลังจากนักวิเคราะห์ของเลห์แมน บราเธอร์สเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า แฟนนี เม และเฟรดดีแมค อาจจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มเนื่องจากตลาดสินเชื่อยังคงเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่ย่ำแย่ ซึ่งความกังวลในเรื่องเหล่านี้ส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มการเงินอย่างหนัก
แฟนนี เม และเฟรดดี แมค เป็นหน่วยงานซึ่งรัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยแฟนนี เม เป็นบริษัทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งชาติของรัฐบาลกลางสหรัฐ ขณะที่เฟรดดี แมค ถูกจัดตั้งขึ้นโดยสภาคองเกรส และมีหน้าที่เพิ่มสภาพคล่องให้แก่สถาบันการเงิน ซึ่งปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้านและนักลงทุน
ทั้งนี้ หุ้นแฟนนี เม ดิ่งลง 16.2% หุ้นเฟรดดี แมค ร่วงลง 17.9% หลังจากเลห์แมน บราเธอร์สระบุว่า แฟนนี เม อาจต้องระดมทุนอีก 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และเฟรดดี แมค อาจระดมทุนอีก 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 2.5% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ร่วงลง 3.6% และหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 4.8% ก่อนที่บริษัททั้ง 3 แห่งจะเปิดเผยผลประกอบการในเดือนนี้
หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ดีดตัวขึ้น 12 เซนต์ ปิดที่ 10.24 ดอลลาร์ หลังจากมีข่าวว่าจีเอ็มกำลังพิจารณาลดจำนวนพนักงานและอาจขายแบรนด์รถยนต์บางส่วน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--