ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดพุ่ง 99.9 จุดหลังราคาน้ำมันร่วง

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเกือบ 100 จุดเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 99.9 จุด หรือ 1.85% ปิดที่ 5,512.7 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,400.1-5,516.4 จุด
          เดวิด โจนส์ นักวิเคราะห์จากไอจี อินเดกซ์กล่าวว่า "ตลาดหุ้นลอนดอนฟื้นตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงเกือบ 4 ดอลลาร์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ"
          แม้ราคาน้ำมันดิบร่วงลง แต่หุ้นกลุ่มบริษัทน้ำมันทะยานขึ้นแข็งแกร่งและเป็นหนึ่งในปัจจัยที่หนุนดัชนี FTSE 100 ปิดในแดนบวก โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 21 เพนซ์ ปิดที่ 572 เพนซ์ หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดขึ้น 79 เพนซ์ ปิดที่ 2041 เพนซ์ และหุ้นบีจีกรุ๊ปทะยานขึ้น 59 เพนซ์ ปิดที่ 1250 เพนซ์
          หุ้นคาร์โฟน แวร์เฮาส์ ดีดขึ้น 11 เพนซ์ ปิดที่ 190 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ประกาศเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 'buy' และเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 251 เพนซ์
          อย่างไรก็ตาม หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 10 เพนซ์ ปิดที่ 217 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ลงสู่ระดับ 200 เพนซ์ จากระดับ 345 เพนซ์ หุ้นธนาคารลอยด์ ทีเอสบี ร่วงลง 3 เพนซ์ ปิดที่ 297 เพนซ์