นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นขณะนี้ปรับตัวลงมาก ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมือง และ ภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวม (Market Cap.)ของตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ หายไปประมาณ 4 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม มองช่วงนี้เป็นโอกาสเข้าลงทุนเพราะราคาหุ้นร่วงต่ำลงไปมาก เพื่อรอผลตอบแทนที่ีดีในระยะยาว
"ตอนนี้ตลาดรอความชัดเจนเรื่องปัญหาทางการเมือง ถ้าลงทุนวันนี้ และไม่มีข่าวร้าย เชื่อว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดี แต่ก็เข้าใจว่านักลงทุนชอบรอดูความชัดเจน ปัจจัยลบต่างๆที่จะเกิดขึ้น แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าการลงทุนในระยะยาวจะได้รับผลตอบแทน ซึ่งพี/อีปัจจุบันเหลืออยู่ 12-13 เท่า ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่ยังอยู่ในเกณฑ์น่าสนใจ" นางภัทรียา กล่าว
ทั้งนี้ ในเย็นวันนี้ เวลา 16.00 น. ศาลฎีกาฯนัดอ่่านคำสั่งคดีใบแดง ของนายยงยุทธ ติยะไพรัช
นายภัทรียา กล่าวยอมรับว่า ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ทั้งราคาน้ำมันแพงและเงินเฟ้อสูงขึ้นกระทบต่อผลประกอบการไตรมาส 2/51 ของบริษัทจดทะเบียน แต่ก็ยังมีบริษัทจดทะเบียนบางกลุ่มที่ได้รับผลดีจากราคาพลังงาน
นอกจากนี้ ภาพรวมการลงทุนยังถือว่ายังน่าน่าสนใจ โดยนักลงทุนต้องการช่องทางการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ีดี เห็นได้จากงานแนะนำกองทุนรวมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฎมีผู้สนใจเข้าลงทุนกองทุนรวม จำนวน 1,682 รายการ มูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินลงทุนที่สูง และเห็นว่ามีสภาพคล่้องของตลาดยังสูงอยู่ แต่นักลงทุนต้องการเลือกลงทุนประเภทที่มีความเสี่ยงต่ำจึงเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวม เพราะัปัจจุบัน ตลาดหุ้นมีปัจจัยกดดันทั้งเรื่องภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และการเมือง
ทางตลาดหลักทรัพย์จะจัดงาน "SET in The City" เพื่อแนะนำการลงทุนในเดือน พ.ย.51 ส่วนงานแนะนำกองทุนรวมจะจัดอีกครั้งในเดือนก.ย.นี้
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--