ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 150 จุดเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงกว่า 5 ดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าทางการสหรัฐอาจออกมาตรการพยุงระบบการเงินให้แข็งแกร่งขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 152.25 จุด หรือ 1.36% ปิดที่ 11,384.21 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 21.39 จุด หรือ 1.71 % ปิดที่ 1,273.70 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 51.10 จุด หรือ 2.28% ปิดที่ 2,294.42 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.7 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.49 พันล้านหุ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ที่ร่วงลง 5.33 ดอลลาร์ แตะระดับ 136.04 ดอลลาร์/บาร์เรล และข่าวที่ว่านายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐ พยายามใช้มาตรการกระตุ้นระบบการเงินสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้น โดยเบอร์นันเก้ระบุว่าเฟดกำลังพิจารณาขยายวงเงินกู้ให้กับวาณิชธนกิจ หลังจากแบร์ สเติร์นส์ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนักจนต้องขอกู้วงเงินฉุกเฉินจากเฟดและต้องขายกิจการให้เจพีมอร์แกนในที่สุด
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส ระบุว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค อาจจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม เนื่องจากตลาดสินเชื่อยังคงเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่ย่ำแย่ โดยคาดว่าแฟนนี เม อาจต้องระดมทุนราว 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และเฟรดดี แมค อาจระดมทุนราว 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์
จอห์น เทอร์นีย์ นักวิเคราะห์จากดอยช์ แบงค์ เอจี ในกรุงนิวยอร์ก คาดว่า "แฟนนี เม และเฟรดดี แมค อาจต้องลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองบริษัทต้องระดมทุนเพิ่ม ส่วนคำถามที่น่ากังวลใจในขณะนี้ คือ เฟนนี เม และเฟรดดี แมค จะสามารถระดมทุนได้ง่ายหรือไม่ เนื่องจากตลาดสินเชื่อยังอยู่ในภาวะตึงตัว"
อย่างไรก็ตาม รมว.คลังสหรัฐยืนยันในที่ประชุมเมื่อวานนี้ว่า เขาสนับสนุนให้บริษัทแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ระดมทุนเพิ่มเพื่อกระตุ้นงบดุลให้แข็งแกร่งขึ้น และอนุญาตให้ระดมทุนเพิ่มอีกหากจำเป็น ซึ่งข่าวการยืนยันของรมว.คลังสหรัฐช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค
แฟนนี เม และเฟรดดี แมค เป็นหน่วยงานซึ่งรัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยแฟนนี เม เป็นบริษัทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งชาติของรัฐบาลกลางสหรัฐ ขณะที่เฟรดดี แมค ได้รับการจัดตั้งขึ้นโดยสภาคองเกรส และมีหน้าที่เพิ่มสภาพคล่องให้แก่สถาบันการเงิน ซึ่งปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้านและนักลงทุน
ไรอัน เดทริค นักวิเคราะห์จากบริษัทเชฟเฟอร์ส อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ช กล่าวว่า "นอกเหนือจากข่าวในด้านบวกจากประธานเฟดและรมว.คลังสหรัฐแล้ว นักลงทุนยังขานรับนายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนเชสที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังมีอนาคตที่สดใส แม้ได้รับผลกระทบในระยะใกล้นี้ก็ตาม เห็นได้ชัดว่าทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กในระยะนี้นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญแล้ว ตลาดยังได้รับอิทธิพลจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้วย"
หุ้นแฟนนี เม พุ่งขึ้น 11.9% หุ้นเฟรดดี แมค ดีดขึ้น 13% แต่หุ้นออฟฟิศ ดีโปท์ ร่วงลง 31% หลังจากบริษัทคาดว่ายอดขายรายไตรมาสจะร่วงลงเกือบ 10%
หุ้นอีเอ็มซี คอร์ป ดีดขึ้น 11.5% ส่วนหุ้นอัลโคร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 32.44 ดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--