บมจ. พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) ยอมรับกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองกดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ต้นทุนยังพุ่งไม่หยุด แต่ยังแข็งใจตั้งเป้ายอดขายเดิมที่ 9.5 พันล้านบาท เป้ารายได้ 9 พันล้านบาท ขณะเดียวกันวางแผนรับมือปีหน้าปรับสร้างบ้่านเดี่ยวเป็นทาวน์เฮ้าส์เน้นทำเลกลางเมืองและลดขนาดลงให้สอดรับกับรายได้ นอกจากนี้ คาดเสนออขายหุ้นกู้แปลงสภาพวงเงินไม่เกิน 1 พันล้านบาทในช่วงปลายไตรมาส 3-ต้นไตรมาส 4 ปีนี้ ใช้ซื้อที่ดินเพิ่ม
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ PF เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"ว่า จากการหารือของคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 7 ก.ค ที่ผ่านมา ได้มีความกังวลสถานการณ์ในครึ่งปีหลังที่ยังเป็นปัจจัยกดดันอสังหาริมทรัพย์ทั้งในเรื่องของเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นและต้นทุนค่าก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่เพิ่มต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาการเมือง
อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายในปีนี้ไว้เหมือนเดิมที่ 9,500 ล้านบาท ถึงแม้ตัวเลขยอดขาย(พรีเซลล์)ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาจะเกินเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้บริษัทมีงานในมือรอโอน(Backlog)จำนวน 3,390 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ด้วย ซึ่งน่าจะทำให้บริษัทมีรายได้ตามเป้าหมายประมาณ 9 พันล้านบาท
"ลึกๆเรายังมองว่ายอดขายคงจะมากกว่าที่เราตั้งไว้ในปีนี้แต่ภายใต้ปัจจัยที่เกิดขึ้นในตอนนี้และมีทีท่าลากยาวไปในครึ่งปีหลังยังมีอยู่เยอะ ไม่ว่าจะเรื่องเงินเฟ้อที่มองว่าเห็นเลข 2 หลักแน่นอน ดอกเบี้ยที่มีโอกาสเพิ่ม ปัญหาการเมือง และไหนจะมาจากผลพวงน้ำมันที่ทำให้ COST ปรับเพิ่มขึ้นอีกล้วนเป็นปัจจัยลบที่อาจจะบั่นทอนได้ การที่เราคงไเป้าว้เป็นการวางไว้อย่างระมัดระวังดีกว่า " นายธีระชนกล่าว
นายธีระชน กล่าวว่า จากต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นทำให้บริษัทได้วางแผนในปีหน้า หันมาพัฒนาโครงการในเมืองมากขึ้น และลดขนาดโครงการลง ด้วยการพัฒนาเป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นแทนบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ภายใต้ขนาดพื้นที่ใช้สอย 180 ตารางเมตรเหมือนเดิมแต่ที่ดินในการใช้จะลดจากหลังละ 50 ตารางวาเหลือหลังละ 20 ตารางวา ทำให้ราคาขายสามารถปรับลดลงตามขนาดที่ดิน ราคาขายเดิมกว่า 4 ล้านบาท จะลดเหลือประมาณกว่า 3 ล้านบาท
ขณะที่คอนโดมิเนียมอาจปรับให้ขนาดห้องให้เล็กลง และอาจสร้างเฉพาะห้องในรูปแบบ Studio เพียงอย่างเดียว ราคาขายจะอยู่ในระดับ 1-2 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าความต้องการจากคนนอกเเมืองยังมีอยู่้ ที่ต้องการลดค่าใช้่จ่ายการเดินทาง
โครงการที่จะเปิดใหม่ในปีนี้ยังคงเดิม ได้แก่ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ คือ เมโทร พาร์ค สาทร เฟส 3, เมโทร พาร์ค รัชดา และเมโทร พาร์ค สุขุมวิท รวมมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยว 4 โครงการ รวม 8,534 ล้าน ได้แก่ เพอร์เฟค พาร์ค สวุวรรณภูมิเฟส 1, เดอะวิลล่า พระราม 9 พัฒนาการ, เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์ , และ เพอร์เฟค มาสเตอร์ พีซ พระราม 9-พัฒนาการ
*คาดขายหุ้นกู้แปลงสภาพได้ปลาย Q3
สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพวงเงินไม่เกิน 1 พันล้านบาท นายธีรชน คาดว่า ในช่วงปลายไตรมาส 3/51-ต้นไตรมาส 4/51 โดยคาดว่าสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือจะประกาศผลการจัดอันดับหุ้นกู้ของบริษัทในช่วงไตรมาส 3/51 ซึ่งเงินที่ได้จะนำไปรองรับแผนซื้อที่ดินใหม่เพิ่ม จากแลนด์แบงก์ปัจุบันที่มีอยู่แล้ว 2 พันไร่
"ตอนนี้มีผู้ลงทุนในต่างประเทศแสดงความสนใจและพร้อมที่จะซื้อมากที่จะซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพเข้ามาเจรจาแล้ว 2-3 รายแต่บริษัทต้องการให้เรตติ้งออกมาก่อนรวมถึงเงื่อนไขออกมาให้ดีที่สุด"นายธีระชน กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการสร้างศูนย์การค้าย่านถนนรัชดาฯ ตรงข้ามเอสพลานาดที่บริษัทมีที่ดินอยู่แล้ว 10 ไร่นั้น นายธีระชน คาดว่า คงจะเป็นลักษณะการร่วมทุน ขณะนี้ทางสิงคโปร์สนใจจะเข้ามาร่วมทุนในสัดส่วน 50:50 เบื้องต้นประเมินการลงทุนที่ 1 หมื่นล้านบาทตอนนี้นักลงทุนในประเทศสนใจเพิ่มเข้ามาด้วย อย่างไำรก็ดี คงจะต้องรอดูสถานการณ์และรายละเอียดที่เหมาะสมอีกครั้ง
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--