ตลท.จี้ต่อ EWCแจงลงลึกขั้นตอน-เหตุผลขายหุ้นเพิ่มทุน UWC-RWI ใน 15 ก.ค.

          ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)สั่งให้บมจ.อีสเทิร์นไวร์(EWC)ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายหุ้นเพิ่มทุนของ บมจ.เอื้อวิทยา(UWC) และบริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์(RWI) รวมทั้งเหตุผลที่ EWC สละสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทย่อย และข้อมูลประกอบอื่น ๆ ภายในวันที่ 15 ก.ค.นี้ 
          ข้อมูลที่ตลท.ขอให้ EWC เปิดเผยเพิ่มเติม ได้แก่ การไม่ดำเนินการตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ โดยไม่เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญทันทีเรื่องการขายหุ้นเพิ่มทุน UWC ให้ PP และมติที่สำคัญของผู้ถือหุ้น RWI เรื่องการเพิ่มทุนและมติอื่นๆ ที่ EWC แจ้งเข้า
มายังตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นสารสนเทศที่สำคัญและอาจกระทบต่อผู้ลงทุน
          เหตุใด EWC จึงแจ้งมติต่างๆ ดังกล่าวล่าช้า โดยให้อธิบายสาเหตุโดยละเอียดของการไม่แจ้งต่อผู้ลงทุนโดยทันทีในแต่ละเหตุการณ์ ขณะที่มติคณะกรรมการ EWC และมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ UWC เมื่อ 19 มี.ค.51 เรื่องการเพิ่มทุนและการนำ UWC เข้าจดทะเบียน EWC สามารถเปิดเผยข้อมูลสำคัญในลักษณะเดียวกันนี้ได้ทันตามเวลาที่ตลท.กำหนด
          รวมทั้ง การแสดงการคำนวณขนาดรายการได้มาและจำหน่ายไปโดยละเอียดแยกการคำนวณออกเป็น 4 วิธี ตามประกาศของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การเปิดเผยและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ.2547 และขอให้ระบุว่าตัวเลขที่นำมาใช้ในการคำนวณมาจากงบการเงินรอบบัญชีใด และผ่านการสอบทานหรือตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีหรือไม่
          ตลท.ยังต้องการทราบว่าเหตุใดราคาตามบัญชีของ UWC จึงลดลง โดยจากข้อมูลที่ EWC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าราคาตามบัญชีของ UWC ณ 31 มี.ค.51 เท่ากับ 1.29 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ 69-1) ของ UWC ที่ยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์มีราคาตามบัญชี ณ 31 ธ.ค.50 เท่ากับ 2.21 บาทต่อหุ้น 
          และ ความเห็นของคณะกรรมการ EWC เกี่ยวกับความเหมาะสมของการทำรายการ ตามที่ EWC สละสิทธิ์การซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ RWI ให้แก่ UWC โดยสัดส่วนการถือหุ้นของEWC ใน UWC จะลดลงเหลือ 71.02% ภายหลังจากที่ EWC ขายหุ้นที่ถือใน UWC 50 ล้านหุ้น และจะลดลงเหลือ 48.15% ภายหลัง UWC เพิ่มทุนให้แก่ PP จำนวน 119 ล้านบาท ส่งผลให้ UWC แปรสภาพจากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วมของ EWC ในอนาคต (ไม่ได้นับรวมหุ้นกู้แปลงสภาพ 80,504 หน่วย ซึ่งจะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ 80,504,000 หุ้น ซึ่งได้ทำสัญญาวางมัดจำจะซื้อจะขายให้ PP แล้ว)
          นอกจากนั้น EWC ได้แจ้งขายหุ้นที่ถืออยู่ใน UWC 50 ล้านหุ้น ให้แก่ PP ในราคาหุ้นละ 1.78 บาทและหุ้นกู้แปลงสภาพในราคาหุ้นละ 1 บาท และแจ้ง UWC ขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ PP จำนวน 119 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาท
          ตลท.ขอให้ EWC ชี้แจงเหตุผลที่ EWC สละสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน UWC และ RWI โดยให้เหตุผลว่า EWC มีเงินทุนไม่เพียงพอ ทั้งที่ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.51 EWC แจ้งรายงานการใช้เงินจากการเพิ่มทุนว่ามีเงินคงเหลือจากการเพิ่มทุน 369.03 ล้านบาท ซึ่งเงินคงเหลือดังกล่าวส่วนหนึ่งได้ให้กู้ยืมแก่บมจ.สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง(SGF) 500 ล้านบาท และในกรณีที่ EWC มีความจำเป็นต้องใช้เงินตามวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน EWC สามารถนำเงินสดจากการดำเนินงานซึ่งมีสภาพคล่องคงเหลือมาใช้ลงทุนตามแผนงานต่อไปได้ โดยการสำรองเพื่อใช้ในการซื้อวัตถุดิบของบริษัทย่อยเป็น 1 ในวัตถุประสงค์หลักของการเพิ่มทุน
          อย่างไรก็ตาม กรณีที่ต้องการใช้เงิน EWC อาจใช้วิธีการบริหารทางการเงินวิธีอื่นซึ่งไม่กระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้น EWC เช่น การเพิ่มทุนใน EWC ซึ่งยังเป็นวาระที่ยังไม่แล้วเสร็จในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551 หรือวิธีการกู้เงินจากสถาบันการเงิน (ณ 31 มี.ค.51 อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.19 เท่า)
          ความเหมาะสมและเหตุผลของการจัดสรรแก่ PP พร้อมทั้งให้ EWC อธิบายความเหมาะสมของราคาที่เสนอขาย เกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดราคา โดยเปิดเผยราคาตามบัญชีของ RWI ด้วย รวมถึงเหตุผลที่ราคาเสนอขายมีความแตกต่างกัน และ ผลกระทบต่อรายได้ของ EWC และโครงสร้างการถือหุ้น โดยให้อธิบายลำดับการเพิ่มทุนของ UWC และ RWI การสละสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ EWC ใน RWI และ UWC รวมถึงการชะลอการเข้าจดทะเบียนของ UWC 
          ทั้งนี้ ให้ EWC นำส่งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้ ภายใน 15 ก.ค.51 ได้แก่ งบการเงินไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 ของ UWC และ RWI , ข้อบังคับบริษัทของ EWC UWC และ RWI ที่มีในปี 2550 และ 2551,สำเนามติคณะกรรมการบริษัท และสำเนามติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ EWC UWC และ RWI ในปี 2550 และ 2551