บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น(FORTH)เดินหน้าเข้าประมูลงานภาครัฐตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะ"ตู้ขายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าอัตโนมัติ"ซึ่งมีมาร์จิ้นสูง รวมทั้งงานโครงข่ายตู้ชุมสายโทรศัพท์ และระบบไฟจราจร เชื่อว่าโครงการต่าง ๆ จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองในขณะนี้ ส่วนโครงการเมกะโปรเจ็คต์ที่อาจล่าช้าออกไปนั้น แม้ว่าบริษัทมีแผนจะเข้าร่วมในงานบางส่วน แต่ก็ยังไม่ได้นำเข้าไปรวมในประมาณการรายได้ ซึ่งในไตรมาส 3-4 ยังน่าจะเติบโตก้าวกระโดดตามที่คาดไว้จากงาน HDD
นายอมร อิ้งสกุลปรีชา ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน FORTH กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า โครงการเมกะโปรเจ็คต์ของภาครัฐที่อาจต้องล่าช้าออกไปจากปัญหาทางการเมือง คงจะไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อบริษัท เพราะยังไม่ได้นับรวมในการสร้างรายได้ในปีนี้
งานของบริษัทในขณะนี้ยังไม่เกี่ยวข้องกับงานภาครัฐมากนัก โดยงานที่บริษัทกำลังจะเข้าประมูลคือ ตู้ขายตั๋วโดยสารอัตโนมัติในสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นสินค้าที่จะเพิ่มอัตราการเติบโตในอนาคต เพราะมีมาร์จิ้นสูงเมื่อเทียบกับสินค้าปกติที่มีมาร์จิ้นเฉลี่ย 30-40% รวมทั้งงานโครงข่ายตู้ชุมสายโทรศัพท์ หรือบรอดแบนด์ ของบมจ. ทีโอที จำนวน 1 ล้านหมายเลขคิดเป็นมูลค่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าไปรับทำดังกล่าวมาแล้วให้กับทีโอทีไปแล้วจำนวน 1.6 แสนเลขหมาย มูลค่า 850 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังจะเตรียมไปเสนอสินค้าที่เกี่ยวกับจราจร เช่น ป้ายจอไฟขนาดใหญ่ที่ติดสี่แยก , โปรแกรมควบคุมสัญญาณไฟจราจรในต่างจังหวัดเพิ่มในปีนี้
*แตกพาร์ยังเพิ่มสภาพคล่องไม่เต็มที่ ลุ้นผลงาน Q3-Q4 โตก้าวกระโดดช่วยหนุน
นายอมร กล่าวว่า จากการที่ภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวยในขณะนี้ ส่งผลให้แผนในการแตกพาร์จากเดิมหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 0.50 บาทไม่ได้เพิ่มสภาพคล่องอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ แม้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าผลประกอบการที่ดดดเด่นของบริษัทในปีนี้จะช่วยสร้างความสนใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทมากขึ้น
โดยเฉพาะผลประกอบการทั้งด้านรายได้และกำไรที่จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงไตรมาส 3/51 และต่อเนื่องไตรมาส 4/51 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปีนี้ที่ทรงตัว เนื่องจากงานส่วนใหญ่จะเข้ามารับรู้รายได้ในช่วงครึ่งหลังมากกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะงานผลิตแผงควบคุมฮาร์ดดิสก์ให้กับบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล จำกัด(WD) ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้านชิ้น/เดือน จากเดิมอยู่ที่ 1.0 ล้านชิ้น/เดือน
และโครงการรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์ชุมสายรองรับอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง(MSAN)ของทีโอทีจำนวน 167,500 พอร์ต มูลค่า 850 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในไตรมาส 3/51 ประมาณ 750 ล้านบาท และยังมาจากงานระบบไฟจราจร ฯลฯ
นายอมร กล่าวว่า ครึ่งปีหลังบริษัทมีงานในมือค่อนข้างมากประมาณ 800 กว่าล้านบาท และธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วนที่มีแนวโน้มโตต่อเนื่อง จึงทำให้เรายังเชื่อว่าจะทำรายได้ได้ตามเป้าหมายที่บริษัทปรับเป้าปีนี้เพิ่มเป็น 7,326 ล้านบาท จากช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาที่ประเมินว่าน่าจะมีรายได้อยู่ที่ 7,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,914 ล้านบาท
"ครึ่งหลังปีนี้เราน่าจะโดดเด่นทั้งรายได้และกำไรเพราะงานที่รับส่วนใหญ่จะเข้ามามากในไตรมาส 3 เว้นแต่ว่า WD ไม่เป็นอย่างที่วางไว้จากปัญหาซัพไพร์มและปัญหาเงินเฟ้อไปกระทบ แต่เท่าที่ได้คุยกันในเดือน มิ.ย.-ก.ค ที่ผ่านมาก็ยังต้องการจำนวนเท่าเดิม ส่วนปัญหาจากโครงการเมกกะโปรเจ็คต์ที่ล่าช้า และเราก็มีงานเตรียมเข้าไปประมูลนั้นก็ไม่ได้บั่นทอนเราเพราะยังไม่ได้นับรวมในปีนี้"นายอมร กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--