ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สามในวันนี้ (11 ก.ค.) นำโดยหุ้นบ.อลูมินัม คอร์ป ออฟ ไชน่า หรือ ชาลโค หลังจากที่มีรายงานว่าบริษัทจะลดการผลิตในประเทศจีน
นักลงทุนแห่งซื้อหุ้นชาลโค ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่สุดของจีน หลังจากที่ HSBC ได้ปรับเพิ่มเรทติ้งให้กับหุ้นชาลโคเป็น "neutral" จากเดิมที่ "underweight" สืบเนื่องมาจากรายงานที่ว่าผู้หลอมอลูมิเนียมชั้นนำ 20 รายของจีน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของผลผลิตของทั้งประเทศ ได้ตกลงกันที่จะลดการผลิตสูงสุดถึง 10% โดยข่าวดังกล่าวหนุนให้ราคาอลูมิเนียมทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดในลอนดอนและนิวยอร์ก
ขณะที่หุ้นฟ็อกซ์คอนน์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือให้แก่โมโตโรล่าและโนเกีย ทะยานขึ้นในวันนี้เช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าการที่หุ้นร่วงลงในช่วงที่ผ่านมาจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีนั้น ได้สิ้นสุดลงแล้ว
เบน กวง ซีโอโอของบ.เคจีไอ เอเชีย จำกัด กล่าวว่า "ตลาดฮ่องกงอยู่ในจุดที่จะดีดตัวขึ้น ตลาดต่างประเทศก็กำลังมีเสถียรภาพ เราคาดว่าทิศทางของตลาดหุ้นฮ่องกงจะดีขึ้น ก่อนที่โอลิมปิก เกมส์ จะเปิดฉากในเดือนหน้า"
บรรดานักวิเคราะห์คาดว่า อุตสาหกรรมที่จะได้รับอานิสงส์จากมหกรรมโอลิมปิก ได้แก่ สายการบิน ค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม และผู้ผลิตชุดและรองเท้ากีฬา จะเป็นแกนนำให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น และจะช่วยหนุนหุ้นของบริษัทจดทะเบียนของฮ่องกงด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลจีนอาจใช้มาตรการบางอย่างเพื่อสนับสนุนตลาดในระหว่างที่การแข่งขันดำเนินอยู่
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นออสเตรเลียและตลาดหุ้นอื่นๆในเอเชียซื้อขายในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืน
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งปรับตัวสูงขึ้น 362.77 จุด หรือ 1.7% ปิดที่ 22,184.55 จุด หลังขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดของวันที่ 22,225.38
"ตลาดหุ้นฮ่องกงใกล้ระดับต่ำสุดแล้ว ทำให้กองทุนต่างๆพร้อมที่จะเข้าหาช้อนซื้อหุ้นที่ดิ่งลงอย่างหนัก" ปีเตอร์ ไหล จากดีบีเอส วิคเกอร์ส กล่าว "ชาลโคเป็นแกนนำให้ตลาดปรับตัวขึ้น เพราะการลดการผลิตจะส่งเสริมราคาอลูมิเนียมทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรของชาลโค" เขากล่าว
โดยนับตั้งแต่ที่พุ่งแตะระดับสูงสุดใกล้ 32,000 จุดในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ดัชนีฮั่งเส็งได้ร่วงลงมาแล้วเกือบ 31% จนถึงขณะนี้
หุ้นชาลโคทะยานขึ้น 6.2% หลังจากที่นักลงทุนได้พากันเทขายหุ้นก่อนหน้านี้เพราะวิตกว่าต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นอาจกระทบผลกำไรของบริษัทในปีนี้
หุ้นฟ็อกซ์คอนน์พุ่ง 10% หลังจากที่ร่วงลง 5.2% เมื่อวานนี้ ในขณะที่หุ้นหลี่ แอนด์ ฟุง ลดลง 2.4%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--