ดัชนีฟุตซี่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ก.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันที่ทะยานสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์กว่า 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลอดวิกฤตที่เกิดขึ้นกับแฟนนี เมและเฟรดดี แมค จนทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดิ่งลงนั้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นลอนดอนอ่อนตัวลง
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีฟุตซี่ร่วงลง 145.20 จุด แตะ 5,261.6 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2547 โดยดัชนีตกลงมากกว่า 20% จากระดับสูงสุดเมื่อเดือนต.ค. 2550 ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ตลาดหุ้นลอนดอนอยู่ในภาวะซบเซา
ราคาน้ำมันที่อยู่สูงกว่า 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนี้เกิดขึ้นจากความวิตกกังวลที่ว่า อิสราเอลอาจจะโจมตีอิหร่าน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้อุปทานน้ำมันจากไนจีเรียลดลง
ข่าวนักลงทุนสหรัฐกังวลว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค อาจจะต้องยอมรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลนั้น ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มแบงค์ของอังกฤษซึ่งอ่อนตัวลงอยู่แล้วเช่นกัน
หุ้นโรยัล แบงค์ ออฟสก็อตแลนด์ ตกลง 17.2 เพนซ์ แตะ 182.7 เพนซ์ ส่วนหุ้นบาร์เคลย์ส ปิดลบ 16-3/4 เพนซ์ แตะ 267-3/4 เพนซ์ หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วง 114 เพนซ์ ปิดที่ 1,341 เพนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--