ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตาม ดัชนีถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวันเนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง ซึ่งเป็นเพราะนักลงทุนไม่มั่นใจว่ามาตรการพยุงกิจการบริษัทแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค จะช่วยแก้ปัญหาในตลาดการเงินของสหรัฐได้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 38.8 จุด หรือ 0.74% แตะระดับ 5,300.4 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,261.6-5,373.2 จุด
แม้ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก แต่ภาวะการซื้อขายค่อนข้างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่ามาตรการพยุงแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค จะแก้ปัญหาในตลาดการเงินของสหรัฐได้ โดยเมื่อวานนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และกระทรวงการคลังสหรัฐ ประกาศแผนพยุงกิจการบริษัทแฟนนี แม และ เฟรดดี แมค โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลกว่า รัฐบาลสหรัฐพร้อมที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องตลาดสินเชื่อไม่ให้ประสบปัญหามากไปกว่าปีที่แล้ว
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น หลังจากธนาคารซานตานเดร์ของสเปนแถลงว่า ทางธนาคารบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อธนาคารอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีสเตอร์ของอังกฤษ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีสเตอร์ ซึ่งเป็นธนาคารที่มีทุนจดทะเบียนขนาดกลางให้พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 52.79%
ขณะที่หุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ดีดขึ้น 0.8% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นธนาคารลอยด์ส ทีเอสบี ดีดขึ้น 2.1% และหุ้นธนาคาร HBOS พุ่งขึ้น 2.8% ส่วนหุ้นธนาคารแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์พุ่งขึ้น 12% เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวของอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีสเตอร์
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นยูโรเปียน เนชั่นแนล รีซอร์สเซสพุ่งขึ้น 8% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดีดตัวขึ้น 3.1% หุ้นแองโกล อเมริกัน เพิ่มขึ้น 2.8% และหุ้นเวแดนตา รีซอร์สเซส ทะยานขึ้น 2.6%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--