ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องมาที่กว่า 2% โดยมีแรงขายจากหุ้นกลุ่มหลักทั้งพลังงานและน้ำมัน ส่งผลให้ดัชนีมาอยู่ที่ 701.82 จุด ลดลง 15.24 จุด (-2.13%) เมื่อเวลา 11.05 น.
แม้ว่า วันนี้รัฐบาลจะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนในช่วงบ่ายวันนี้ แต่ปัจจัยต่างประเทศนั้น ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงปรับตัวลดลงจากความกังวลปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐที่ผลกระทบจากซัพไพร์มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งตลาดหุ้นบ้านเราวานนี้นักลงทุนต่างชาติก็ยังขายอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ความกังวลจากปัญหาการเมืองในประเทศเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเมื่อพรรคพลังประชาชนออกมาเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเร็วขึ้น โดยเฉพาะการออกมาระบุว่าจะเสนอให้มีการปรับปรุงส่วนทีเกี่ยวข้องกับอำนาจตุลาการ บริหาร และนิติบัญญัติ
นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ร่วงลง เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาคการธนาคารของสหรัฐฯ ที่รับผลกระทบจากการปล่อยสินเชื่อในช่วงที่ผ่านมา โดยภายหลังจากที่ ธนาคารอินดี้แมค ต้องประสบภาวะล้มละลาย ทำให้นักลงทุนกังวลว่า ธนาคารต่าง ๆ ในภูมิภาคของสหรัฐฯอาจจะต้องเผชิญปัญหาการล้มละลาย เหมือนกับธนาคารอินดี้แมค ทำให้หุ้นในกลุ่มธนาคารได้ทรุดตัวลงมาค่อนข้างแรงในตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจกลุ่มการเงิน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีเรื่องสถานการณ์การเมืองที่มีความยืดเยื้อและยังไม่ได้ดีขึ้น และเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงไทยก็ยังมีโอกาสที่จะชะลอตัว จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้มองว่านักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการประชุมของกนง.ในการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ย เชื่อว่าไม่ได้มีผลต่อตลาดฯเท่าไรแล้ว เพราะตอนนี้ทั่วโลกต่างปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งนั้น และเราคงจะไม่ฝืนกระแสทั่วโลก
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 705 จุด แนวต้าน 715 จุด โดยแนะนำนักลงทุนว่า หากยังไม่มั่นใจสถานการณ์ต่าง ๆ ก็แนะให้ถือเงินสดไว้ก่อน
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--