APF เตรียมเงินหลักพันลบ.ซื้อธุรกิจประกันภัยไทย มองต่ออสังหาฯ-นอนแบงก์

          นายมิทซิจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASIA PARTNERSHIP FUND Group กล่าวว่า ในเดือนหน้าจะได้เห็นการเข้าไปลงทุนในบริษัทประกันวินาศภัยของ APF โดยได้เตรียมเงินไว้ประมาณ พันล้านบาทที่จะเข้าลงทุน และนอกจากนี้ยังสนใจเข้าลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโรงแรม และยังมองในธุรกิจสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารด้วย  
          ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า "เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้ง"จากประเทศญี่ปุ่นได้ทุ่มเงินเข้าซื้อกิจการ"ลิเบอร์ตี้ประกันภัย"จากตระกูลวราชิตรองรับงานจากธุรกิจในเครือที่มีทั้งสถาบันการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ด้านผู้บริหาร ลิเบอร์ตี้ฯ ยอมรับเจรจากันจริงแต่ยังไม่มีความคืบหน้า
          "เรามีความมั่นใจและมีเงินที่จะเข้าลงทุนในหลายธุรกิจที่มีศักยภาพ ซึ่งประเทศไทยถือว่ามีอัตราการเติบโตที่ดี ซึ่งในส่วนของประกันเราก็วางไว้คร่าวๆ ประมาณ 1 พันล้านบาท และอสังหาฯ เราก็จะลงทุนเพิ่มจากก่อนหน้าที่ได้ลงทุนซื้อธุรกิจโรงแรมที่เกาะพีพีไปแล้ว"ประธานเจ้าหน้าที่ื APF กล่าว
          ปัจจุบันพอร์ตของบริษัทอยู่ที่ 830 ล้านเหรียญ สรอ. โดย 2 ปีที่ผ่านมาได้ลงทุนในไทยไปแล้ว 100 ล้านเหรียญสรอ. ทั้งในส่วนของบล.ยูไนเต็ด (US) และ บมจ.กรุ๊ปลีส (GL) 
          สำหรับมุมมองการลงทุนในไทยนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APF กล่าวว่า มั่นใจในประเทศไทยมาก และเห็นว่าศักยภาพการเติบโตของไทยยังดี โดยปัญหาเรื่องการเมืองขณะนี้ไม่ได้มีผลต่อการลงทุนของกลุ่ม APF เพราะทางกลุ่มจะพิจารณาการลงทุนในหุ้นจากมูลค่าของหุ้นมากกว่าราคา 
          นายมิทซิจิ กล่าวถึงการเข้าลงทุนใน SHOWA RUBBER ว่า คาดว่าจะเห็นการเข้าไปจัดตั้งโรงงานในไทย 2-3 ปีข้างหน้าโดยงบประมาณนั้นคงอยู่ที่พันธมิตรที่จะเข้ามาทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการเจจรจากับ SHOWA โดยทาง APF พร้อมลงทุนในการทำ"ยางเคลือบผลิตภัณฑ์" ที่ตลาดมีความต้องการสูง ส่วนผู้ลงทุนรายอื่นที่จะเข้ามาร่วมในการสร้างโรงงานนั้น ทาง SHOWA รับหน้าที่เป็นผู้เจรจา 
          ปัจจุบัน SHOWA เป็นผู้ชำนาญงานด้านธุรกิจยาง มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและหวังว่านักธุรกิจคนไทยจะเห็นความตั้งใจในการทำธุรกิจที่มีอยู่หลากหลายจากการใช้ประโยชน์ในยางพารา โดยผลตอบแทนจากการลงทุนทาง APF ยังยึดมาตรฐานไม่ต่ำ่กว่า 15% ต่อปีในทุกๆ กิจการที่เข้าไปลงทุน 
          "การหาพันธมิตรในไทยเป็น 1 ในแผนการทำธุรกิจในอนาคตที่ต้องผลักดันให้บริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจจับมือร่วมกันเป็นผู้นำในธุรกิจยางพาราที่มีศักยภาพสูง" CEO กลุ่ม APF ระบุ