(เพิ่มเติม) "หมอบุญ"ผับแผนเทคฯ กิจการใน-นอกตลาดหุ้น หันซื้อเก็บที่ดินเข้าพอร์ตแทน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 15, 2008 16:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ โรงพยาบาลปิยะเวท เปิดเผยว่า ยังไม่มีแผนเข้าเทคโอเวอร์กิจการทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ในขณะนี้ เนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย ทั้งจากปัจจัยด้านการเมือง และเศรษฐกิจ ซึ่งโดยส่วนตัวก็ได้ถอนการลงทุนออกจากตลาดหุ้นไทยเกือบทั้งหมดตั้งแต่ 8 เดือนที่แล้ว
ในระยะนี้ได้นำเงินมาซื้อที่ดินเพื่อการลงทุนแทน พร้อมมีแผนขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่จ.ภูเก็ต และ เกาะสมุย รวมทั้งเข้าซื้อที่ดินบริเวณพัทยา , เขาใหญ่ เพื่อพัฒนาเป็นรีสอร์ตและโรงแรม รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการพักระยะยาว
"ตอนนี้ ตลาดหุ้นไทยรับผลกระทบจากซับไพร์มและยังมีคลื่นใต้น้ำต่อเนื่อง ตอนนี้ยังไม่มีจังหวะเข้าลงทุน ก็ต้องรอไปอีก 4 เดือนค่อยมาว่ากัน มองว่าปัญหาการเมืองกระทบหุ้นไทย 15% แต่จากการที่รัฐบาลยังมีปัญหาต่อเนื่องและยืดเยื้อ ยังส่่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน" นพ.บุญ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นพ.บุญ ระบุไม่เห็นด้วยที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นมาจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะราคาน้ำมันหากปรับอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ประเทศเกิดภาวะเิงินเฟ้อและเงินฝืดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะเิศรษฐกิจโดยรวมอย่างรุนแรงกว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นพ.บุญกล่าวว่า ตนยังลงทุนต่อเนื่อง และถือเป็นรายได้หลักของธุรกิจ โดยปัจจุบันลงทุนที่เกาะุสมุย 2 โครงการ เงินลงทุน 2 หมื่นล้านบาท , ภูเก็ต มี 4-5 โครงการ มูลค่า 2-3 พันล้านบาท และพัทยา 1 โครงการ ใช้เงินลงทุน 2-3 พันล้านบาท
โดยที่ผ่านมา นพ.บุญได้ทยอยเข้าซื้อที่ดินต่อเนื่อง เนื่องจากมีผู้ประกอบการหลายรายที่ประสบปัญหาและไม่สามารถลงทุนได้ มาเสนอขายที่ดินจำนวนมาก จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ได้แก่ ที่ดินในเกาะสมุย ซึ่งราคาที่ดินลดลงจากเดิมเกินกว่า 50% และเชื่อว่าราคาที่ดินจะยังถูกลง เพราะยังมีผู้มาเสนอขายที่ดินต่อเนื่อง แต่ก็เน้นซื้อที่ดินติดทะเล เพราะเป็นทำเลที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจมากกว่า
*จับมือรัฐบาลจีนขยายธุรกิจโรงพยาบาล
นพ.บุญ กล่าวว่า ธุรกิจโรงพยายาลได้มีแผนขยายการลงทุนไปในจีน โดยโรงพยาบาลปิยะเวทได้เข้าร่วมทุน 15% กับรัฐบาลจีน จากงบลงทุนทั้งหมด 2 หมื่นล้านบาท ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล จำนวน 60 สาขาในประเทศจีน ใช้ชื่อ "ปักกิ่งปิยะเวท เฮลท์แคร์" โดยทางโรงพยาบาลปิยะเวทจะเป็นผู้บริหารจัดการโรงพยาบาลทุกสาขา คาดว่าจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนต.ค.นี้ หลังจบการแข่งขันโอลิมปิก
"เราเข้าไปเพราะเห็นที่จีนมีศักยภาพการลงทุน แต่ขาดความเชี่ยวชาญด้านการบริหารโรงพยาบาล ซึ่งบุคคลากรในจีนมีเพียงพอ เพียงแต่ต้องมีการพัฒนาเรื่องการให้บริการเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้เราได้รับติดต่อให้เข้าบริหารธุรกิจโรงพยาบาลที่ สหรัฐเอมิเรต แต่จะต้องมีการเตรียมการค่อนข้างสูง เพราะบุคคลากรของไทยไม่เพียงพอ และหมอไม่มีความต้องการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ" นพ.บุญกล่าว
ในปีนี้คาดว่าโรงพยาบาลปิยะเวทน่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ 7-10% ซึ่งอยู่ระดับใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากโรงพยาบาลเพิ่งอยู่ในช่วงลงทุน และมีค่าเสื่อมราคาสูง
ส่วนกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี(มี 14 แห่ง)คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 3 พันล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 10% เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเสื่อมราคา และ กลุ่มโรงพบาลธนบุรีจับลูกค้าระดับกลางและเน้นลูกค้าคนไทย ทำให้ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ