ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 3.3% เกาะกลุ่มตลาดภูมิภาคที่ร่วงแรง เหตุรับปัจจัยลบรอบทิศทาง

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 693.41 จุด ลดลง 23.65 จุด(-3.30%) มูลค่าการซื้อขาย 13,733.20 ล้านบาท
          การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 711.86 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 693.41 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 37 หลักทรัพย์ ลดลง 335 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 73 หลักทรัพย์
          นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในแถบเอเชียที่ร่วงลงแรงเฉลี่ยราว 3% เนื่องจากรับผลจากความอ่อนแอของภาคการเงินในสหรัฐฯ ทำให้กองทุนต่างขายหุ้นออกมาในแถบเอเชีย รวมถึงตลาดไทยด้วย โดยคาดว่านักลงทุนต่างชาติคงจะขายหนักในตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนในประเทศต่างก็ยังไม่กล้าที่จะลงทุน จนทำให้ดัชนีหุ้นไทยหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 700 จุด
          ทั้งนี้ ปัจจัยลบของตลาดฯทั้งเรื่องปัญหาภาคการเงินในสหรัฐฯ, การวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมือง โดยเฉพาะการที่รัฐฯต้องการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจส่งผลให้ฝ่ายอื่นมีความเคลื่อนไหวตามมา, ปัญหาเรื่องราคาน้ำมันแพง, ปัญหาเงินเฟ้อสูง รวมไปถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
          นอกจากนี้ การขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งขณะนี้นักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิออกมากว่า 7 หมื่นล้านบาทแล้วนับตั้งแต่เริ่มขายในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และปัจจุบันก็ยังคงขายอยู่  ปัจจัยเหล่านี้ยังอยู่ครบในขณะนี้ และคนยังมองไม่เห็นข่าวดีอะไร 
          อย่างไรก็ดี มองว่าหุ้นหลาย ๆ ตัวเริ่มถูกมาก หากราคาหุ้นย่อตัวลงมาในช่วงนี้ สามารถซื้อเก็บเข้าพอร์ตบางส่วนได้แต่ให้เลือกเป็นรายตัว อย่างพวกพลังงานต้นน้ำ เช่น PTTEP, BANPU 
          แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(16 ก.ค.)เป็นเรื่องที่ยากจะมองทิศทางได้อย่างชัดเจน แต่ให้คำนึงไว้ว่าปัจจัยเสี่ยงยังอยู่ครบ แต่ทิศทางของตลาดโดยรวมยังเป็น downside อยู่ 
          ทั้งนี้ มองว่าแถวบริเวณการเทรดที่ค่า P/E 9 เท่าเมื่อคิดจากกำไรของปี 51 ดัชนีฯจะอยู่แถวบริเวณ 680 จุด ซึ่งที่ระดับบริเวณนี้เป็นโอกาสที่ดีที่นักลงทุนจะหันมามองดูหุ้นเป็นรายตัวได้แล้ว 
          พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 680, 685 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 700, 705 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย 2,034.60 ล้านบาท ปิดที่ 270.00 บาท ลดลง  16.00 บาท
          PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,657.15 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท ลดลง   6.00 บาท
          SCB   มูลค่าการซื้อขาย   881.85 ล้านบาท ปิดที่  71.00 บาท ลดลง   4.00 บาท
          KBANK มูลค่าการซื้อขาย   651.71 ล้านบาท ปิดที่  63.00 บาท ลดลง   3.00 บาท
          BANPU มูลค่าการซื้อขาย   454.36 ล้านบาท ปิดที่ 456.00 บาท ลดลง   4.00 บาท