ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) จากแรงขายที่ส่งเข้ากระหน่ำหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ การร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นลอนดอนและส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายซบเซาลง อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 6 ดอลลาร์
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 128.5 จุด ปิดที่ 5,171.9 จุด
มิค มิลส์ นักวิเคราะห์จากเทรดอินเด็กซ์กล่าวว่า "หุ้นกลุ่มธนาคารถูกเทขายอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคารและสถาบันการเงินทั้งในสหรัฐและในแถบยุโรป อีกทั้งกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐยอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก"
"อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 6 ดอลลาร์" มิลส์กล่าว
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารถูกแรงขายกระหน่ำลงอย่างหนัก โดยหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 13 เพนซ์ ปิดที่ 168 เพนซ์ หุ้นบาร์เคลย์สดิ่งลง 10 เพนซ์ ปิดที่ 261 เพนซ์ และหุ้นลอยด์ ทีเอสบี ร่วงลง 10 เพนซ์ ปิดที่ 273 เพนซ์
ส่วนหุ้นอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 11 เพนซ์ ปิดที่ 325 เพนซ์ แม้ธนาคารซานตานเดร์ของสเปนเปิดเผยว่า ทางธนาคารบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อธนาคารอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีสเตอร์แล้วก็ตาม
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะทองแดง โดยหุ้นคาซัคมิส ร่วงลง 81 เพนซ์ ปิดที่ 1434 เพนซ์ หุ้นอันโตฟากัสต้าร่วงลง 38 เพนซ์ ปิดที่ 547 เพนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--