ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ยังถูกกดดันด้วยปัจจัยลบทั้งในและนอกประเทศ ทำให้ร่วงลงไปแล้วกว่า 10 จุด ขณะที่วอลุ่มเบาบาง โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคยังปรับตัวลดลงตามทิศทางดัชนีหุ้นกลุ่มดาวโจนส์ร่วงไปอีก 90 กว่าจุดมาแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี แรงขายหลักยังมาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันร่วงกว่า 6 ดอลลาร์/บาร์เรล และจากมาตรการล่าสุดของภาครัฐในการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
นอกจากนั้น นักลงทุนบางส่วนยังรอผลการพิจารณากำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในช่วงบ่ายวันนี้
เมื่อเวลา 11.05 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 681.93 จุด ลดลง 11.48 จุด (-1.66%)
นายอภิศักดิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ร่วงลงกว่า 10 จุด คาดว่าจะเป็นผลจากความกังวลทั้งในประเทศและภายนอกประเทศ โดยปัจจัยจากภายนอกประเทศเป็นเรื่องความอ่อนแอของสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ที่ตอนนี้ทุกคนเริ่มขาดความมั่นใจต่อความช่วยเหลือของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)แล้วทำให้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปัจจัยในประเทศยังวิตกต่อสถานการณ์การเมือง แม้ว่ารัฐฯจะออกมาตราการความช่วยเหลือ 6 ข้อแต่มองว่าตลาดฯไม่ได้ให้การตอบสนอง และยังมองถึงอาจเป็นแรงผลักดันให้เกิดเงินเฟ้อสูงขึ้นตามมาด้วย
ส่วนการประชุมกนง.ในการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ คาดว่ากนง.น่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นประมาณ 0.25% เพื่อรับกับเสถียรภาพของเงินเฟ้อกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่อาจจะทำให้ตลาดฯอ่อนแรงลง
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 675-686 จุด
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--