ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 276.74 จุด หลังราคาน้ำมันร่วง,ภาคการเงินฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 17, 2008 04:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) เพราะได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง โดยนักลงทุนกลับเข้ามาในตลาดหุ้นอีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะจำกัดความต้องการเชื้อเพลิงและส่งผลสืบเนื่องไปถึงราคาพลังงาน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 276.74 จุด หรือ 2.52% ปิดที่ 11,239.28 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในหนึ่งวันนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2551 ซึ่งดัชนีพุ่งขึ้น 391 จุดๆ
ขณะที่ดัชนี S&P 500 เดินหน้า 30.45 จุด หรือ 2.51% ปิดที่ 1,245.36 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 69.14 จุด หรือ 3.12% ปิดที่ 2,284.85 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.73 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วนมากกว่า 3 ต่อ 1
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 4.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 134.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องมาจากเมื่อวันอังคารที่ลดลง 6.44 ดอลลาร์
นอกจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงแล้ว นักลงทุนยังรู้สึกคลายวิตกจากการที่บ.เวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค ตัดสินใจที่จะเพิ่มเงินปันผล ซึ่งช่วยหยุดยั้งความกังวลของตลาดเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคารต่างๆลงได้บ้าง โดยธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ธนาคารรายใหญ่อันดับ 5 ของสหรัฐซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในซานฟรานซิสโกได้รายงานผลกำไรที่ลดลงน้อยกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ และได้ประกาศจ่ายเงินป้นผลเพิ่มขึ้น 10% จาก 31 เซนต์ เป็น 34 เซนต์ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สวนทางกับสถาบันการเงินอื่นๆ ซึ่งต่างก็ตัดสินใจลดเงินปันผลเพื่อพยุงเงินทุนไว้ ส่งผลให้ตลาดขานรับเนื่องจากมองว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับภาคการเงินที่กำลังประสบปัญหา
โดยแม้ว่า เมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ประจำเดือนมิ.ย.ว่าพุ่งขึ้นที่ระดับสูงสุดเป็นอันดับสองในรอบ 26 ปี ซึ่งย้ำเตือนให้นักลงทุนตระหนักว่าเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยคุกคามการขยายตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งตลาดวอลล์สตรีทยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับภาคการเงินที่ส่งสัญญาณว่าปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ยังไม่มีท่าทีจะยุติลง หลังจากที่เกิดกรณีของแฟนนี แม และ เฟรดดี แมค สองสถาบันการเงินรายใหญ่ที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องของเงินทุนอย่างรุนแรง ทำให้ทางการสหรัฐฯ ต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือสองบริษัทดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ณ ขณะนี้ นักลงทุนรู้สึกพอใจกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
"ผมคิดว่าการร่วงลงของราคาน้ำมันมีนัยสำคัญ ตลาดแยกแยะอย่างชัดเจนว่าผลที่เกิดขึ้นจะเป็นไปในทิศทางใดถ้าราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับนี้" แดน เจนเทอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ RNC Genter ในลอสแองเจลิสกล่าว
โดยเมื่อคืนนี้เป็นคืนที่สดใสสำหรับหุ้นกลุ่มการเงินและสายการบินที่ระยะหลังถูกกระหน่ำจากแรงเทขาย อาทิ หุ้นเวลส์ ฟาร์โก บวก $6.72 หรือ 32.8% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส อิงค์ บวก $1.24 หรือ 26.6%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ