นักวิเคราะห์คาดว่า ตลาดหุ้นเอเชียจะดีดตัวขึ้นในสัปดาห์หน้า เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อหุ้นที่ถูกเทขายอย่างหนักในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นในตลาดก็อาจจะถูกสกัดไว้จากปัจจัยจากนักลงทุนที่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
โกห์ มู ลีห์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบล.เวลสท์คอมบ์ กล่าวว่า อาจจะเร็วเกิดไปที่จะคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันลงเพราะสถานการณ์อุปทานและอุปสงค์ที่ตึงตัวในปัจจุบัน โดยนักลงทุนเองก็ยังกังวลเกี่ยวกับสภาพตลาดสินเชื่อ
ข่าวการถูกยึดกิจการของอินดีแมคเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า เฟรดดี แมค และแฟนนี เม ซึ่งเป็นซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) มีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้านและนักลงทุน อาจจะตกอยู่ในสภาพที่ลำบากเช่นเดียวกัน
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า มัลคอม วู้ด นักยุทธศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า เงินเฟ้อและปัญหาในระบบการเงินทั่วโลกเป็นเรื่องสำคัญที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ยกเว้นเสียแต่ว่าความกังวลเหล่านี้จะคลี่คลายลง ตลาดหุ้นในภูมิภาคคงจะไม่ดีดตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ด้านนักวิเคราะห์รายอื่นๆเชื่อว่า นักลงทุนไม่ควรจะวิตกกังวลมากนักเกี่ยวกับปัญหาที่แฟนนี เม และเฟรดดี แมคเผชิญอยู่
เดบอราห์ ชูเลอร์ นักวิเคราะห์ด้านการธนาคารของมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส กล่าวว่า แม้ว่าจะมีปัญหากับบริษัททั้ง 2 แต่แบงค์ในเอเชียก็มีความเสี่ยงเล็กน้อยจากการถือหลักทรัพย์ที่แฟนนี เม และเฟรดดี แมคเป็นผู้ออก
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์สัปดาห์หน้าจะเป็นอีกปัจจัยที่นักลงทุนในเอเชียรอดู โดยคาดว่าเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.จะสูงขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบและอาหารยังคงอยู่ในระดับสูง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--