นายสรรพัชญ์ รัตคาม กรรมการผู้จัดการ บมจ. ควอลลีเทค ผู้ให้บริการทดสอบและตรวจสอบวัสดุทางวิศวกรรมชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอขายได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ ก่อนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท และทุนชำระแล้วก่อนการเสนอขายหุ้น 70 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป จำนวน 28.5 ล้านหุ้น และจะเสนอขายต่อผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ จำนวน 1.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
กรรมการผู้จัดการ บมจ.ควอลลีเทค เชื่อว่า นักลงทุนจะสนใจหุ้นของบริษัทฯ เนื่องจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมี ที่มีความจำเป็นต้องใช้การทดสอบและตรวจสอบทางวิศวกรรมยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทฯ มีประสบการณ์ในการดำเนินกิจการดังกล่าวมากว่า 17 ปี อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นคู่ค้ากับบริษัทสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็น บมจ. ปตท. (PTT) บมจ. บางจากปิโตรเลียม (BCP) และบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เป็นต้น
ในปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 50 มีรายได้รวม 212.70 ล้านบาท และในปัจจุบันเฉพาะงวด 3 เดือนแรกของปี 2551 มีรายได้รวม 54.41 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิเท่ากับ 11.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า
รายได้หลักของบริษัทฯ มาจากการให้บริการใน 2 ส่วน คือ การให้บริการ ทดสอบโดยไม่ทำลาย (NDT) ส่วนใหญ่เป็นการทดสอบสำหรับการก่อสร้างหรือติดตั้งโครงสร้างใหม่ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จาก NDT 28.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 5.54 โดยส่วนใหญ่เป็นการขยายบริการให้กับลูกค้าเดิม ขณะที่รายได้จากบริการตรวจสอบรับรองคุณภาพ อยู่ที่ 25.81 ล้านบาท
สำหรับการแข่งขันในอุตสาหกรรมการทดสอบและตรวจสอบทางวิศวกรรมนั้น ต้องยอมรับว่า อยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการน้อยราย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อาศัยทักษะเฉพาะด้านสูง รวมทั้งต้องมีเงินลงทุนในการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็น ทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่ไม่สามารถเข้ามาแข่งขันได้โดยง่าย
บมจ. ควอลลีเทค ประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการทดสอบและตรวจสอบวัสดุทางวิศวกรรม (Third party inspection service) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อความปลอดภัยของวัสดุอุปกรณ์ โดยเฉพาะโครงสร้างโลหะต่างๆ ทั้งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องมืออุปกรณ์และโครงสร้างต่างๆ ได้คุณภาพถูกต้องตามข้อกำหนดมาตรฐานสากล รวมถึงการทดสอบและตรวจสอบระหว่างกระบวนการผลิต เพื่อไม่เกิดความเสียหาย จนส่งผลให้กระบวนการผลิตต้องหยุดชะงัก
ปัจจุบัน บริษัท เป็นผู้นำตลาด โดยครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา โดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 31 ดังนั้น ธุรกิจนี้ จัดว่ามีการแข่งขันที่ไม่รุนแรง เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละรายมักจะมีฐานลูกค้าเป็นของตนเอง โดยปกติจะไม่มีการแย่งลูกค้ากัน นอกจากลูกค้ามีความต้องการที่จะเปลี่ยนผู้ให้บริการ เนื่องจากความแตกต่างด้านคุณภาพและความปลอดภัยของการให้บริการ ทางด้านคู่แข่งขันจากต่างประเทศนั้น บริษัทฯไม่มีนโยบายแข่งขันโดยตรง แต่ใช้นโยบายการสร้างพันธมิตรโดยร่วมเป็นคู่ค้ากับบริษัทข้ามชาติหลายราย เพื่อให้บริการการทดสอบทางด้าน Advanced NDT
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--