นายจำนงค์ พุทธิมา กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซันไชน์ คอร์เปอเรชั่น(SSE)เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติให้ บริษัท เจ.อาร์.ดีล(เจอาร์ดีล) บริษัทย่อยของ SSE ให้เงินกู้ยืมเพิ่มเติมแก่นายยุวพล พรประทานเวช กรรมการของเจอาร์ดีลจำนวน 80 ล้านบาทตามที่ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระและกรรมการตรวจสอบให้ความเห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรลงมติอนุมัติการเข้าทำรายการให้ความช่วยเหลือทางการเงินซึ่งเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน
"เมื่อวันที่ 18 ก.ค.51 ได้รับชำระคืนหนี้มาแล้ว(จากนายยุวพล)จำนวน 17 ล้านบาท และที่เหลือจะชำระภายในไตรมาส 3 เมื่อผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติก็ไม่ติดขัดอะไ รเพราะหลังจากที่กรรมการและที่ปรึกษาทางการเงินอิสระให้ความเห็น บริษัทก็ได้ติดตามขอคืนเงินกู้มาบ้างแล้ว ส่วนวาระอื่นในวันนี้ไม่มีปัญหาที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติทั้งหมด "นายจำนงค์ กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันนายยุวพล เป็นหนี้ กับเจอาร์ดีล ประมาณ 75.27 ล้านบาท และกำลังทยอยชำระคืน
ก่อนหน้าถึงวันประชุมผู้ถือหุ้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ได้เตือนผู้ถือหุ้น SSE ในการเข้าทำรายการดังกล่าว เพราะ บล.บีฟิท ซึ่งเป็นที่ปรึกษาอิสระ และ กรรมการตรวจสอบเห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรลงมติอนุมัติการเข้าทำรายการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน
นอกจากนี้นายจำนงค์ยังกล่าวถึงกลุ่มนายฉาย บุนนาค ยังคงถือหุ้นของบริษัท SSE ต่อเนื่อง แต่ไม่มั่นใจว่ากลุ่มของนายฉายถือหุ้นรวมกันในมือเท่าใดแล้ว แต่เชื่อว่าเป็นการถือหุ้นเพื่อลงทุนในระยะยาว อนึ่ง ตามรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ ณ วันที่ 28 มี.ค.51 นายฉาย บุนนาค ถือหุ้น SSE ในสัดส่วน 21.64%
นายจำนงค์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท เจ. อาร์. ดีล มีรายได้สม่ำเสมอ และยังคงแผนการนำบริษัท เจ. อาร์. ดีล เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ภายในปี 51 ด้วย
*คาดเริ่มธุรกิจเทรดดิ้งถ่านหินได้ไนไตรมาส 4/51
นายจำนงค์ กล่าวว่า บริษัทยังเดินหน้าทำธุรกิจเทรดดิ้งถ่านหิน คาดว่าจะเริ่มดำเนินกิจการได้ภายในไตรมาส 4/51 มูลค่าการลงทุนประมาณ 50-60 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย โดยจะส่งขายให้กับอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่ให้ส่วนต่างกำไรสูงกว่าการส่งขายให้กับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แม้ว่าปัจจุบันมีหลายบริษัทสนใจทำธุรกิจเทรดดิ้งถ่านหินจำนวนมาก แต่เชื่อว่าโอกาสธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานยังคงเปิดกว้าง การแข่งขันอาจรุนแรงเพิ่มขึ้นแต่บริษัทก็มีกลุ่มลูกค้าของตัวเองไว้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ เป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ SSE ยังเน้นการดำเนินธุรกิจพลังงาน ซึ่งบริษัทศึกษาธุรกิจเอทานอล, ไบโอดีเซล และเทรดดิ้งถ่านหิน ซึ่งจะเห็นจุดเริ่มต้นธุรกิจพลังงานภายในไตรมาส 4/51 และในอนาคตเชื่อว่าธุรกิจพลังงานจะเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งบริษัทยังไม่มีแผนในการเพิ่มทุนมาดำเนินธุรกิจ
ในส่วนของการขาดทุนสะสมนั้น จากเดิม ณ สิ้นปี 50 อยู่ที่ 534 ล้านบาท แต่ขณะนี้ลดลงเหลือ 97 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2/51 หลังจากบริษัทนำส่วนเกินมูลค่าหุ้น เงินสำรองตามกฎหมาย และเงินที่คาดว่าเรียกเก็บหนี้ได้จากบมจ.ไดสตาร์อิเลคทริก คอร์เปอเรชั่น (DISTAR) จำนวน 77 ล้านบาทมาหักล้าง ซึ่งคาดว่าจะไม่มีปัญหาในการเรียกเก็บหนี้ และบริษัทยังคงพยายามล้างขาดทุนสะสมให้ได้หมดในปีนี้
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--