OISHI ไม่สนศก.ฟุบเดินหน้าเปิดแบรนด์ร้านใหม่ปลายปี-เจรจาซื้ออีก 2-3 แบรนด์

          นายไพศาล อ่าวสถาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บมจ.โออิชิ กรุ๊ป(OISHI)เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ใหม่"ไมโดะ โออิกินิ โชกุโดะ"สาขาแรกในเดือนพ.ย.นี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และบริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อแบรนด์ร้านอาหารจานเดียวอีก 2-3 ราย คาดจะปิดดีลได้เร็วที่สุดก็ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปี 52
          สำหรับร้าน"ไมโดะ โออิกินิ โชกุโดะ"ทำสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ 10 ปี ต่ออายุได้คราวละ 10 ปี ทางไมโดะฯ ต้องการพัฒนาร้านสาขาขั้นต่ำ 10 สาขา แต่บริษัทตั้งเป้าหมายเบื้องต้นเปิด 5 สาขาภายใน 3 ปี คาดว่าจะใช้เงินลงทุนสาขาละ 7-8 ล้านบาท และตั้งเป้าทำรายได้สาขาละ 2 ล้านบาท/เดือน โดยบริษัทตั้งงบลงทุนธุรกิจร้านอาหาร 200 ล้านบาทในปีนี้
          นายไพศาล กล่าวว่า การซื้อแบรนด์อื่นอีก 2-3 รายขึ้นอยู่กับข้อกำหนดสัญญาของทั้ง 2 ฝ่าย หากยืดเยื้่อก็อาจจะเลยไปถึงครึ่งแรกของปี 52 และถึงแม้ว่าบริษัทจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะพัฒนาธุรกิจอาหารของตัวเองได้ แต่เลือกที่จะซื้อลิขสิทธิ์แบรนด์จากญี่ปุ่นโดยตรง เพื่อให้ได้สูตรต้นตำรับ ซึ่งจะเป็นการเดินหน้าขยายธุรกิจด้านอาหารออกไป เพราะธุรกิจนี้ต้องมีการพัฒนาต่อเนื่องหยุดไม่ได้แม้เศรษฐกิจจะไม่ดีก็ตาม 
          ส่วนธุรกิจอาหารแช่แข็งนั้น ยอดขายเกี้ยวซ่า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทขณะนี้อยู่ที่ 2 แสนตัว/วัน มีจุดขายใหญ่คือการส่งขายผ่านเซเว่นอีเลฟเว่น นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาส่งออกไปญี่ปุ่น โดยจะส่งให้กับซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ในกรุงโตเกียว เป็นการใช้ช่องทาง 2 อย่างคือลูกค้าเดินทางมาซื้อและจัดส่งไปให้ลูกค้า
          ปกติสัดส่วนรายได้ของ OISHI มาจากธุรกิจเครื่องดื่ม 60% และธุรกิจร้านอาหาร 40% แต่ปีนี้ผู้บริหารมีนโยบายบริหารพอร์ตดังกล่าวให้เป็น 50:50 ซึ่งขณะนี้รายได้จากอาหารปรับสัดส่วนขึ้นมาเป็น 43% แล้ว โดยมูลค่าตลาดรวมของโออิชิอยู่ที่ ประมาณ 6,000 ล้า่นบาท คาดว่าปี 52 จะเิพิ่มขึ้นเป็น 7,000 ล้านบาท 
          นายไพศาล กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นมาถึง 20-30% จากปกติที่เคยปรับเพิ่มขึ้นปีละ 10% บริษัทจึงได้ปรับกลยุทธด้านวัตถุดิบด้วยการสั่งซื้อล่วงหน้าวัตถุดิบเป็นล็อตใหญ่ขึ้น โดยสั่งซื้อล่้วงหน้า 6 เดือน อย่างปลาแซลมอนก่อนหน้านี้ซื้อ 18 ตันต่อเดือน ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 20 ตันต่อเดือน 
          อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2/51 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 1/51 ซึ่งถือว่าเป็นโชคดี เพราะการจัดแคมเปญอาหารตามฤดูกาลช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นของโออิชิในไตรมาสแรกเติบโตได้ถึง 20% เป็นครั้งแรก และโออิชิก็ยังจัดแคมเปญดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในขณะนี้