บมจ.ไอที ซิตี้ (IT) เชื่อว่ายอดขายและกำไรของบริษัทในปีนี้จะเติบโตขึ้นจากปีก่อน และน่าจะปันผลได้มากกว่าปีก่อนที่จ่ายในอัตรา 0.34 บาท/หุ้น แม้ว่าเศรษฐกิจและการเมืองจะกดดันกำลังซื้อผู้บริโภคทำให้ตลาดสินค้าไอทีทรงตัว แต่บริษัททำธุรกิจซื้อมาขายไป และรายได้ของเกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งให้ยอดขายต่างจังหวัดมีการเติบโตค่อนข้างดี ซึ่งบริษัทมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่ม 3 แห่งเน้นต่างจังหวัด พร้อมเพิ่มประเภทสินค้ากว่า 40 รายการ โดยเฉพาะในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า และโทรศัพท์มือถือเพื่อเสริมยอดขาย
นายเอกชัย ศิริจิระพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ IT กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มมากกว่าครึ่งปีแรก โดยคาดว่าจะมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นในระดับที่น่าพอใจ จึงยังเชื่อว่าทั้งปี 51 ยังสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขาย 5.5 พันล้านบาท แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองยังกดดันให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ
แต่การที่บริษัทคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตจากสาขาเดิมและสาขาใหม่ที่จะเปิด รวมถึงในปีนี้ระดับราคาสินค้าไอทีปรับลดลงหลายรายการ จึงเชื่อว่าจะยังเติบโตอยู่ได้ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกยอดขายต่างจังหวัดมีอัตราเติบโตดีกว่าในกทม. เนื่องจากได้รับผลดีจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้กำลังซื้อกลับเข้ามา
ช่วงครึ่งหลังปีนี้บริษัทจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 แห่งจากที่มีจำนวนสาขารวม 33 แห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ใช้เงินลงทุนสนขาละ 10 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายจะขยายสาขาไปในต่างจังหวัดเพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันร้าน"ไอที ซิตี้"มีสาขาอยู่ในพื้นที่ 11 จังหวัดเท่านั้น ขณะที่สาขาในกรุงเทพฯ 18 แห่งนั้นถือว่าค่อนข้างครอบคลุมแล้ว
นายเอกชัย กล่าวว่า เงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดที่มีอยู่จำนวนมาก สิ้นไตรมาส 1/51 อยู่ที่ 400 ล้านบาท เพียงพอต่อการลงทุนโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเพิ่มสินค้าหมวดใหม่ ๆ กว่า 40 รายการ ทั้งหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่จะเพิ่มประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้ภายในบ้าน และโทรศัพท์มือถือรุ่นต่าง ๆ ให้หลากหลายขึ้น แต่รายได้หลักก็ยังน่าจะมาจากคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ในปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้กว่า 40-50% โดยมีคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเป็นตัวสร้างรายได้หลัก
นายเอกชัย กล่าวว่า ธุรกิจของบริษัทยังเน้นการซื้อมาขายไป จึงเชื่อว่าในปีนี้กำไรของบริษัทจะยังสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไร 162 ล้านบาท โดยจะมีอัตราเติบโตสูงกว่าด้านยอดขาย เนื่องจากไม่มีปัญหาเรื่องต้นทุน ซึ่งน่าจะทำให้ปีนี้จะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้มากกว่า 0.34 บาท/หุ้น
"ปีนี้ตลาดไอทีน่าจะยังทรงตัวและแกว่งตัวต่อเนื่องจากปีก่อน ทำให้ภาพรวมของปีนี้เติบโตไม่มากนัก เทียบกับปีก่อนที่โต 5-6% ขณะที่สถานการณ์ด้านผู้บริโภคในปีนี้ไม่น่าจะแตกต่างจากปีก่อน แต่จะใช้ระยะเวลาตัดสินใจซื้อเพิ่มขึ้นจากปัจจัยด้านน้ำมันและเศรษฐกิจชะลอตัว"นายเอกชัย
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--