LL มั่นใจนลท.สนใจหลังกลับเข้าเทรด 1 ส.ค.เตรียมเปิดอีกหลายโครงการตามแผน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 23, 2008 15:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ลิฟวิ่งแลนด์ แคปปิตอล (LL) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทมั่นใจว่าหุ้น LL ที่ได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ให้กลับเข้ามาเทรดตั้งแต่ 1 ส.ค.นี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากมีเสียงตอบรับจากกพันธมิตรและคู่ค้าค่อนข้างดี และผลประกอบการค่อนข้างดี อีกทั้งมีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในมือที่เตรียมเปิดตัวจำนวนมาก
"เพราะพาร์ทเนอร์ก็ดี เสียงตอบรับของพันธมิตร คู่ค้าต่างๆ เราค่อนข้างดี และฐานลูกค้าจริงๆ ก็รู้จักเราค่อนข้างเยอะ เพียงแต่ลูกค้าของเราจะเป็นส่วนที่เป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เยอะหรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตัว performance ก็ไม่ได้น่าเกียจ ค่อนข้างดีคิดว่านักลงทุนก็คงสนใจ"นายภัทรลาภ กล่าว
ตลท.ระบุเหตุผลที่ให้หุ้น LL กลับเข้ามาเทรด เนื่องจากบริษัทได้แสดงให้เห็นว่ามีกำไรสุทธิ 1 ปีก่อนยื่นคำขอ มีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2550 เท่ากับ 741.34 ล้านบาท รวมทั้งมีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่มั่นคงตามสภาพธุรกิจของบริษัทไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ LL ได้ปรับโครงสร้างหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการแล้วเสร็จและศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของบริษัทตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2551
อนึ่ง งบการเงินตรวจสอบแล้วปี 2550 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานธุรกิจหลัก 45.21 ล้านบาท ไตรมาสที่ 1/51 กำไรสุทธิจากการดำเนินงานธุรกิจหลัก 57.20 ล้านบาท
"ความมั่นใจค่อนข้างสูงเพราะมีแผนงานรองรับอยู่ และการที่กลับมา resume trade ได้ ตัวนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและสถาบันการเงินรวมถึงลูกค้าที่เกี่ยวข้องค่อนข้างเยอะ"นายภัทรลาภ กล่าว
นายภัทรลาภ กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนงานจะเปิดตัวโครงการใหม่หลายโครงการในปีนี้ เพียงแต่ในแง่เงื่อนไขทางมาร์เก็ตติ้งต้องค่อยๆเปิดชื่อโครงการออกไป โดยโครงการที่จะเปิดขายในเดือนก.ค.นี้ คือ โครงการลิฟวิ่ง นีโอ รามคำแหง เป็นที่พักอาศัยแนวราบในลักษณะทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 300 ยูนิต ระดับราคาตั้งแต่ 1-2 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 500-600 ล้านบาท
"ปีนี้ทั้งปีคงจะมีอีกเป็นระลอกเพราะตอนแรกมีโครงการในกระเป๋าอยู่และเตรียมตัวเปิดโครงการ แต่ก็รอกลับไป resume trade ก่อนจากนั้นก็จะกลับไปทยอยเปิด"นายภัทรลาภ กล่าว
LL แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าโครงการในอนาคต ได้แก่ โครงการเดอะ เมเปิ้ล (อังเกตุ) พัทยา มูลค่า 308 ล้านบาท ,โครงการเดอะ โคลเวอร์ (The Clover) เชียงใหม่ มูลค่า 505 ล้านบาท,โครงการบ้านมณีคราม - ภูเก็ต (เฟส 2) มูลค่า 317 ล้านบาท ,โครงการไพน์เนอรี่ พาร์ค บีช มูลค่า 187 ล้านบาท,โครงการลิฟวิ่งนารา - รังสิต (เฟส3) มูลค่า 314 ล้านบาท,โครงการลิฟวิ่ง นีโอ ธัญญบุรี มูลค่า 389 ล้านบาท และโครงการเดอะ เมเปิ้ล แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการ 123 ล้านบาท
LL หรือเดิมชื่อ บมจ.นครหลวงเส้นใยสังเคราะห์(HTX) ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายเส้นใยสังเคราะห์และเส้นใยไนลอน ก่อนจะเปลี่ยนมาดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันผู้ถือหุ้นประกอบด้วย กลุ่มนายวันชัย ศุภพยัคฆ์ 40% รองลงมาเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ HTX และเจ้าหนี้ รวมทั้งนักลงทุนเฉพาะเจาะจงที่ประกอบด้วย บลจ.ซิกโก้ บล.บีฟิท นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง และนักลงทุนบุคคล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ