S&P คาดตลาดหุ้นนิวยอร์กสัปดาห์นี้อิงทิศทางราคาน้ำมัน,ตัวเลข GDP-ตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 28, 2008 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) คาดการณ์ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นนิวยอร์กในสัปดาห์นี้จะขึ้นอยู่กับทิศทางของราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX โดยจะจับตาดูว่าราคาน้ำมันจะร่วงลงต่อหรือไม่ หลังจากดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 124 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าราคาน้ำมันที่ลดลงจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น ช่วยหนุนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับภาคเอกชน
"นอกเหนือจากราคาน้ำมันแล้ว นักลงทุนจะจับตาดูผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทเอกชนในสัปดาห์นี้ รวมถึง บริษัท มาสเตอร์การ์ด อิงค์, วอล์ท ดิสนีย์, อีสต์แมน โกดัก, โมโตโรลา, วีซ่า และสตาร์บัค อีกทั้งจะจับตาดูว่าบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่อย่าง เอ็กซอนโมบิลและเชฟรอน จะแสดงความคิดเห็นอย่างไรต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าผลประกอบการของบริษัทพลังงานทั้งสองจะพุ่งขึ้นเพราะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น" โฮเวิร์ด ซิลเวอร์เบลท นักวิเคราะห์ของ S&P กล่าว
นอกจากนี้ แนวโน้มของตลาดหุ้นนิวยอร์กในสัปดาห์นี้จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ อาทิ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสสองซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดี โดยนักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียล/ไอเอฟอาร์ คาดว่า GDP ไตรมาสสองของสหรัฐจะขยายตัว 2.4% เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการจ่ายคืนเช็คเงินภาษี
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ค.ซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 และอัตราว่างงานจะพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ สำนักงานจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในวันศุกร์เช่นกัน
ส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ก.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 21.41 จุด หรือ 0.19% แตะระดับ 11,370.69 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 0.8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย เนื่องจากยอดสั่งซื้อรถยนต์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบเกือบ 1 ปี ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่นับรวมสินค้าด้านการขนส่ง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.0% โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนอาจลดลง 0.3% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ทรงตัวในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนมิ.ย.ลดลง 0.6% แตะที่ระดับ 530,000 ยูนิต แต่ยังลดลงไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะร่วงลง 1.3% และมหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นของสหรัฐประจำเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 61.2 จุด สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 56.4 จุด"
ลินดา ดรูสเซล นักวิเคราะห์จากบริษัทเฟดเดอเรท อินเวสเตอร์สกล่าวว่า "ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ดีเกินคาดสะท้อนให้เห็นว่า สินค้าสหรัฐยังคงเป็นที่ต้องการในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสหรัฐสามารถทำกำไรได้ในยามที่เศรษฐกิจชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ที่ร่วงลง 2.23 ดอลลาร์ แตะที่ 123.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ" สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ