(เพิ่มเติม) TGPRO คาดปี 51 พลิกมีกำไร เหตุราคาวัตถุดิบลดลง-ได้เิงินเพิ่มทุนขยายงาน

          นายรชต ลีลาประชากุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทย-เยอรมัน โปรดักส์(TGPRO) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังหวังจะมีกำไรสุทธิหลังจากราคาวัตถุดิบเริ่มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าช่วงไตรมาส 1/51 บริษัทจะขาดทุนถึง 19 ล้านบาทจากปัญหาราคาวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นขณะที่ราคาขายไม่สามารถปรับได้ทัน ขณะที่ยังคงเป้ารายได้โต 10-15% จากปีก่อน 1.87 พันล้านบาท 
          "แม้ว่าไตรมาส 1 เราจะขาดทุน 19 ล้านบาท แต่ยังหวังว่าปีนี้จะเห็นกำไร แม้จะน้อยกว่าปีก่อนที่มีกำไร 10 ล้านบาท แต่บริษัทเริ่มมีผลการดำเนินงานที่ดี อัตรากำไรขั้นต้นสามารถรักษาระดับที่ 13% เอาไว้ได้" นายรชต กล่าว
          นายรชต กล่าวว่า บริษัทได้ขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเพิ่มทุนจำนวน 341 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท โดยเพิ่มทุนในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ทั้งนี้ได้ให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนโดยปัจจุบันกลุ่มนายรชต ถือหุ้นกว่า 50% และธนาคารนครหลวงไทย (SCIB)ถือหุ้นประมาณ 20% คาดว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะจองซื้อหุ้นทั้งจำนวน แต่อย่างไรก็ตามการที่จะทราบว่าธนาคารนครหลวงไทยจะจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนหรือไม่จะสิ้นสุดวันจองซื้อและชำระเงินในวันที่ 22 ส.ค.51
          “การให้สิทธิจองซื้อหุ้นที่ 1 บาท สูงกว่าราคากระดานที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 80 สตางค์ต่อหุ้น ยังเชื่อว่าผู้ถือหุ้นจะจองซื้อทั้งจำนวน ถ้าใช้สิทธิจองซื้อไม่หมดก็สามารถให้จองซื้อหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงได้ เพราะเราขอมติผู้ถือหุ้นไว้แล้ว ส่วนแบงค์นครหลวงจะใช้สิทธิหรือไม่นั้นจากการสอบถามเบี้องต้นทางแบงก์ยังให้ความสนใจซื้อหุ้นแต่กว่าจะทราบชดเจนเป็นวันที่ 22 ส.ค. ที่เป็นวันสุดท้ายของการชำระเงิน"นายรชต กล่าว 
          สำหรับการเพิ่มทุนดังกล่าว บริษัทคาดว่าจะได้เงินจำนวน 341 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินไปซื้อวัตถุดิบประมาณ 250 ล้านบาท จะทำให้วัตถุดิบเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30% และกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นตามจำนวนของวัตถุดิบ และหากประเมินในแง่ของเวลาการผลิตจากเดิมผลิตเพียงวันละ 8 ชั่วโมงเพิ่มเป็นวันละ 12 ชั่วโมง จากปริมาณการผลิตทั้งหมด 4.5-5 หมื่นตันต่อปี นอกจากนี้จะนำมาขยายเครื่องจักรเพิ่มเติม ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มเห็นกำลังการผลิตใหม่ได้ในช่วงกลางไตรมาส 4/51 
          นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาในการเพิ่มสินค้าท่อเหล็กที่เกี่ยวกับพลังงานโดยจะซื้อโนว์ฮาวจากประเทศเยอรมันนีคาดว่าจะได้ขอสรุปในช่วงปลายปีนี้เช่นเดียวกัน 
          ทั้งนี้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นบริษัทมีลูกค้ารองรับอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาบริษัทไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันกับความต้องการลูกค้าเนื่องจากกระแสเงินสดไม่เพียงพอในการนำเข้าวัตถุดิบไว้