บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ คาดว่าจะยื่นข้อมูลไฟลิ่งแก่สำนักงานคณะกรรมกากรกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ภายในไตรมาส 3/51 และเข้าเทรดภายในไตรมาส 4/51 โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป(IPO)ประมาณ 200 ล้านหุ้น (มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาทต่อหุ้น)เพื่อระดมทุนราว 500 ล้านบาท นำไปใช้การขยายกิจการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งทางด้านการเงินให้กับบริษัท
ก่อนหน้านี้ บมจ.เสนาฯ เคยยื่นไฟลิ่งไปแล้วเมื่อปีก่อน ซึ่งหมดอายุไปแล้ว ทำให้บริษัทและบล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ต้องยื่นไฟลิ่งใหม่ โดยมีการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น ซึ่งคาดว่าไม่น่้าจะมีการแก้ไขมาก เนื่องจากไฟลิ่งชุดเดิมได้รับ+การอนุมัติจาก ก.ล.ต.แล้ว
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บมจ.เสนาฯ คาดว่า ในปีนี้จะสามารถทำกำไรประมาณ 200 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 2 สามารถทำกำไรได้แล้ว 100 ล้านบาท และไม่มีการเปิดโครงการใหม่ ทำให้ค่าใช้ลดลง นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับขึ้นราคาขายเฉลี่ยประมาณ 5-10% เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น 10% ตั้งแต่ต้นปี
“ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทำให้เราต้องกลับมาดูแลและบริหารต้นทุนให้ดีซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ก็ได้บริหารด้วยการสั่งสินค้าไว้ล่วงหน้า การลดวิธีการก่อสร้างหลังจากที่เราเห็นว่าต้นทุนเราเพิ่มสูงขึ้นจากราคาน้ำมัน และที่ผ่านมาเราก็ทำการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาซื้อโครงการเช่นโปรโมชั่นอยู่ฟรี 2 ปีก่อนจ่ายเงิน"น.ส.เกษรา กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)เพียง 0.64 เท่าซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำและสามารถรองรับการซื้อที่ดินเพิ่มได้ โดยปัจจุบันบริษัทมีที่ดินกว่า 100 ไร่รองรับการพัฒนาโครงการได้ 2-3 ปีข้างหน้า และจากการที่บริษัทพัฒนาโครงการในปีนี้จะสามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้
ส่วนแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลังจากที่เลื่อนมาจากปีก่อนนั้น น.ส.เกษรา กล่าวว่า บรรยากาศในปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมาทั้งในเรื่องความรู้สึกของประชาชนต่อรัฐบาล และภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ก็ดีกว่าจึงไม่กังวลในการที่จะระดมทุนในปีนี้
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วมบริษัท เสนาฯ กล่าวว่า บริษัทจะทำการโรดโชว์ปลายเดือนต.ค.นี้ เชื่อว่าจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนรายย่อยไม่ต่ำกว่า 2-3 พันราย เนื่องจากบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 27% และเชื่อว่าแผนการนำหุ้นเข้าตลาดฯ จะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะการเมือง
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--