ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาคการเงินของสหรัฐ ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารในอังกฤษดิ่งลงด้วย
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 40.0 จุด หรือ 0.75% แตะระดับ 5,312.6 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,308.4-5,365.8 จุด
เคท โบว์แมน นักวิเคราะห์จากบริษัทฮาร์เกรฟส์ แลนส์ดาวน์ กล่าวว่า "การร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงด้วย ซึ่งเกิดจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาคการเงินของสหรัฐ หลังจากนักวิเคราะห์ของเมอร์ริลระบุว่า เลห์แมนอาจขาดทุนในไตรมาส 3 และปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีรอบใหม่ในพอร์ตลงทุนด้านการจำนองที่อยู่อาศัย เป็นวงเงินราว 2.5 พันล้านดอลลาร์ และข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐเข้ายึดธนาคารอีก 2 แห่งที่ล้มละลายเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ เนชั่นแนล แบงค์ ออฟ เนวาดา และเฟิร์สท์ เฮริเทจ แบงค์ เอ็นเอ"
หุ้นกลุ่มธนาคารถูกกระหน่ำขายอย่างหนัก โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดิ่งลง 18 เพนซ์ ปิดที่ 339 เพนซ์ หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 9 เพนซ์ ปิดที่ 207 เพนซ์ หุ้นธนาคารลอยด์ ทีเอสบี ร่วงลง 13 เพนซ์ ปิดที่ 319 เพนซ์ ส่วนหุ้นธนาคาร HBOS ร่วงลง 7.3% หลังจากถูกซิตี้กรุ๊ปประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนลงสู่ระดับ 'underweight' จากระดับ 'neutral'
หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้น โดยหุ้นบริติช แอร์เวย์ส ดิ่งลง 13 เพนซ์ ปิดที่ 235 เพนซ์ หุ้นอีซีเจ็ท ดิ่งลง 27 เพนซ์ ปิดที่ 309 เพนซ์
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 0.4% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ทะยานขึ้น 1.9% หุ้นบีจี กรุ๊ป ดีดตัวขึ้น 2.4% หุ้นเคร์น เอ็นเนอร์จี พุ่งขึ้น 1.5% และทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 2.8%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--